เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2564 ที่บ้านกลางหมื่น ต.กลางหมื่น อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ นายวิรัช พิมพะนิตย์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม พร้อมคณะนำหน้ากากอนามัยเดินเท้าเข้าเคาะประตูบ้านมอบให้กับประชาชน เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระให้กับประชาชนในช่วงที่กำลังเก็บเกี่ยวข้าว และลดค่าใช้จ่ายให้กับผู้ปกครองในช่วงเปิดเทอมใหม่ รวมทั้งเป็นการช่วยเหลือผู้สูงอายุ และผู้พิการให้ได้มีหน้ากากสวมใส่ป้องกันโรคโควิด-19 เบื้องต้นตั้งเป้ามอบหน้ากากอนามัย 3,500,000 ชิ้น ให้กับทุกหลังคาเรือน จำนวน 185 หมู่บ้าน 16 ตำบลในพื้นที่อำเภอเมืองกาฬสินธุ์ พร้อมทั้งรณรงค์เชิญชวนประชาชนออกมารับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ให้มากที่สุด อย่างน้อยให้ได้ 70 เปอร์เซ็นต์ของจำนวนประชากรชาวกาฬสินธุ์

นายวิรัช พิมพะนิตย์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่ากระทรวงการคมนาคม กล่าวว่า ปัจจุบันสถานการณ์โรคโควิด-19 ยังคงพบผู้ป่วยในหลายพื้นที่ ซึ่งวิธีการป้องกันติดเชื้อที่ดีที่สุดอยู่ที่ตัวเรา โดยเฉพาะการปฏิบัติตามมาตรการ และการสวมหน้ากากอนามัย ซึ่งในวันนี้ตนก็ได้นำหน้ากากมอบให้กับประชาชนใน ต.กลางหมื่น ทุกหลังคาเรือน เพื่อแบ่งเบาภาระให้กับประชาชน โดยเฉพาะในช่วงกำลังเก็บเกี่ยวผลผลิตข้าว และในช่วงเปิดเทอมใหม่ รวมทั้งให้ผู้สูงอายุได้มีหน้ากากอนามัยใช้ป้องกันโรค เนื่องจากทาง พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ก็ได้เน้นย้ำกับตนเสมอว่าเราคนไทยจะต้องไม่ทอดทิ้งกัน มีอะไรก็แบ่งปันช่วยเหลือกัน

นายวิรัช กล่าวอีกว่า สำหรับการมอบหน้ากากอนามัยครั้งนี้ ตนได้รับจากญาติสนิทมิตรสหายและผู้ใหญ่ใจดีรวมแล้วกว่า 3.5 ล้านชิ้น โดยตั้งเป้าไว้ว่าจะออกเคาะประตูบ้านแจกจ่ายให้กับประชาชนทุกหลังคาเรือน 185 หมู่บ้าน 16 ตำบลในพื้นที่อำเภอเมืองกาฬสินธุ์ ครัวเรือนละ 1 กล่อง 50 ชิ้น พร้อมกับรณรงค์เชิญประชาชนทุกสาขาอาชีพออกมารับการวัคซีนป้องกันโควิด-19 ให้มากที่สุด เพื่อที่จะสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ ตามที่ทางจังหวัดกาฬสินธุ์ตั้งเป้าการฉีดวัคซีนไว้อย่างน้อย 70 เปอร์เซ็นต์ของจำนวนประชากรที่มีอยู่กว่า 9.8 แสนคน เพื่อให้จังหวัดกาฬสินธุ์ดีขึ้นและประเทศไทยเดินไปข้างหน้าได้ ซึ่งขณะนี้วัคซีนมีจำนวนมากและเพียงพอ อีกทั้งยังมีหลายสูตรที่จะฉีดให้กับประชาชนอีกด้วย