เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 18 ต.ค. ที่ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ ครั้งที่ 3/2567 โดยมี น.ส.ศุกมาส อิศรภักดี รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) และหน่วยงานเกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมด้วย

โดยนายกฯ กล่าวช่วงต้นการประชุมว่า การประชุมครั้งนี้ เป็นการประชุมครั้งที่ 3/2567 และเป็นครั้งแรกของตนในฐานะประธานสภานโยบายฯ โดยก่อนหน้านี้เราได้มีการประชุมประเด็นสำคัญหลายเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องแนวทางการขับเคลื่อนการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม รัฐบาลให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับการพัฒนาการอุดมศึกษาฯ โดยมีวัตถุประสงค์สำคัญ คือการพัฒนาองค์ความรู้ขั้นสูง ก่อให้เกิดรายได้ และสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้แท้จริง แก่ประชาชนและประเทศชาติ

นายกฯ กล่าวว่า จากวัตถุประสงค์ดังกล่าวการประชุมวันนี้ จะมีสาระสำคัญที่มุ่งเน้นไปในการทำงานวิจัย โดยเฉพาะด้านวิทยาศาตร์ วิจัยและนวัตกรรม มาต่อยอดอุตสาหกรรมสำคัญของประเทศที่สามารถตอบโจทย์ตลาดแรงงาน ดึงดูดนักลงทุน และสร้างประโยชน์ต่อการพัฒนาได้ด้านอื่นๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในอุตสาหกรรม 4+2 เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาอุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูง โดย 4 อุตสาหกรรม ได้แก่ ยานยนต์ไฟฟ้าอีวี อุตสาหกรรมปัญญาประดิษฐ์เอไอ อุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ และอิเล็กทรอนิกส์ขั้นสูง และสุดท้ายคืออุตสาหกรรมการแพทย์ขั้นสูง รวมไปถึงอุตสาหกรรมอีกสองอย่าง คือ อุตสาหกรรมเพื่ออนาคต ได้แก่ การเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน ไปสู่พลังงานสะอาด และการสร้างความยั่งยืนของทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

นายกฯ กล่าวต่อว่า อีกประเด็นที่เราให้ความสำคัญ คือการผลิตบุคลากรให้สามารถตอบโจทย์กับการพัฒนาอุตสาหกรรมได้ รัฐบาลให้ความสำคัญกับการส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต และการปรับพัฒนาอัพสกิลและรีสกิล ให้มีความทันสมัยขึ้นโดยเฉพาะการสร้างแพลตฟอร์ม เพื่อการเรียนรู้ให้กับประชาชนผ่านการผลักดันธนาคารหน่วยกิจแห่งชาติ เพื่อสร้างโอกาสทางการศึกษาให้กับทุกช่วงทุกวัย สภานโยบายฯ นี้จะช่วยกันนำความรู้วิทยาศาตร์ วิศวกรรมศาสตร์ และสังคม แก้ปัญหาให้กับประเทศชาติ และนำผลงานวิจัยไปต่อยอดได้จริง ก่อให้เกิดรายได้และเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยขับเคลื่อนและพัฒนาประเทศต่อไป.