สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย เมื่อวันที่ 14 พ.ย. ว่า สถานีโทรทัศน์รอสซิยา-วัน เผยแพร่คลิปการสัมภาษณ์ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน เกี่ยวกับสถานการณ์ในทะเลดำ ที่องค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ ( นาโต ) ซึ่งสหรัฐเป็นหนึ่งในสมาชิก จัดการซ้อมรบนานหลายวันเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ว่ามีการเสนอจากกระทรวงกลาโหมรัสเซีย ให้เขาสั่งจัดการซ้อมรบเพื่อประชันกับอีกฝ่ายทันที แต่เขามองว่า “ไม่มีประโยชน์” เพราะจะเป็นการยกระดับบรรยากาศตึงเครียดในภูมิภาคเท่านั้น


ด้วยเหตุนี้ เครื่องบินและเรือรบของรัสเซียจึงจำกัดการแสดงท่าทีของตัวเองในเรื่องนี้ ด้วยการเพียงสังเกตการณ์ และคอยประกบพาหนะของนาโต ในกรณีเข้ามาในระยะอันตราย คือเฉียดใกล้น่านฟ้าและน่านน้ำของรัสเซียเท่านั้น ทว่ากระทรวงกลาโหมของรัสเซียวิจารณ์การซ้อมรบของนาโตในครั้งนี้ ที่มีการใช้พื้นที่ส่วนหนึ่งในยูเครนและกองทัพยูเครนเข้าร่วมด้วย “มีเจตนาสร้างความไม่มั่นคงในภูมิภาค”


อย่างไรก็ตาม ปูตินเน้นย้ำว่า ความเคลื่อนไหวทางทหารของนาโตครั้งนี้ “ไม่มีการประกาศล่วงหน้าอย่างเป็นทางการ” และถือเป็น “ความท้าทายอย่างร้ายแรง” ต่อรัฐบาลมอสโก แต่ไม่มีการขยายความใดอีก


นอกจากนี้ ผู้นำรัสเซียกล่าวถึงสถานการณ์ผู้อพยพระหว่างพรมแดนเบลารุสกับโปแลนด์ ว่ารัฐบาลมอสโกและรัฐบาลมินสก์ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในทางใดกับความตึงเครียดด้านมนุษยธรรมครั้งนี้ แต่ติดตามสถานการณ์ตลอดเวลา และหวังเป็นอย่างยิ่งว่า “คู่กรณีทั้งหมด” จะร่วมกันหาทางออกได้อย่างสันติ ทว่ามองการดำเนินนโยบายของตะวันตก “เป็นต้นเหตุ” ของวิกฤติครั้งนี้


ขณะเดียวกัน ปูตินให้ความเห็นต่อการที่ประธานาธิบดีอเล็กซานเดอร์ ลูคาเชนโก ผู้นำเบลารุส กล่าวว่า “จะปิดท่อส่งก๊าซธรรมชาติ” สู่ยุโรป ว่าลูคาเชนโกไม่เคยปรึกษาหารือกับรัฐบาลมอสโกในเรื่องนี้ หากทำเช่นนั้นจริง “จะมีผลกระทบ” ต่อความสัมพันธ์ระหว่างรัสเซียกับเบลารุส และระหว่างเบลารุสกับสหภาพยุโรป ( อียู )


ในอีกด้านหนึ่ง นายแอนโทนี บลิงเคน รมว.การต่างประเทศของสหรัฐ สนทนาทางโทรศัพท์กับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของโปแลนด์และฝรั่งเศส เกี่ยวกับสถานการณ์ผู้อพยพ ตามแนวชายแดนระหว่างโปแลนด์กับเบลารุส ว่าเป็นเจตนาของรัฐบาลลูคาเชนโกในการเบี่ยงเบนความสนใจของทุกฝ่าย ในระหว่างที่รัสเซียยังคงเคลื่อนไหวทางทหารตลอดแนวพรมแดนทางตะวันตก ที่ติดกับยูเครน.

เครดิตภาพ : AP