เมื่อวันที่ 5 พ.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ที่ประชุม ครม. มีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงการอนุญาตดำเนินการหรือจัดตั้งสถานศึกษา สถานฝึกและอบรม หรือสถานแนะนำทางจิต พ.ศ. …. ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ ทั้งนี้ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ได้ชี้แจงต่อที่ประชุม ครม. ว่า ถือเป็นครั้งแรกที่ภาครัฐโดยกระทรวงยุติธรรม เปิดโอกาสให้ฝ่ายเอกชนจัดตั้งศูนย์ฝึกอบรมเด็กและเยาวชนที่ก้าวผิดพลาด เพื่อให้มาช่วยแบ่งเบาภาระงานของรัฐ แต่การจัดตั้งศูนย์ดังกล่าวจะต้องมีคุณภาพและได้มาตรฐาน โดยกระทรวงยุติธรรม จะมีการติดตามตรวจสอบคุณภาพของศูนย์นี้เป็นระยะๆ
นายจิรายุ กล่าวอีกว่า สำหรับสาระสำคัญของร่างกฎกระทรวงฉบับนี้ เป็นการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการออกใบอนุญาต และการเพิกถอนใบอนุญาตให้ส่วนราชการดำเนินการ หรือให้เอกชนจัดตั้งสถานศึกษา สถานฝึกและอบรม หรือสถานแนะนำทางจิตเกี่ยวกับเด็กหรือเยาวชน ซึ่งเป็นผู้ต้องหาว่ากระทำความผิดเป็นจำเลย หรือเป็นผู้ต้องคำพิพากษา หรือคำสั่งของศาลให้ลงโทษหรือใช้วิธีการสำหรับเด็กและเยาวชน เนื่องจากปัจจุบัน ศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชนของหน่วยงานในสังกัดกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน มีจำนวน 20 แห่งทั่วประเทศ และไม่ครอบคลุมทุกจังหวัด รวมทั้งมีรูปแบบเป็นสถานที่ควบคุมในระบบปิดทั้งหมด ซึ่งบางแห่งต้องรับเด็กและเยาวชนเกินความจุ ทำให้ต้องมีการกระจายไปยังศูนย์ฝึกและอบรมที่อื่น ส่งผลให้ผู้ปกครองไม่สามารถเยี่ยมเยียนและติดต่อได้อย่างสะดวก อีกทั้งการจัดตั้งสถานศึกษาฯ มุ่งเน้นในเรื่องการพัฒนาพฤตินิสัย การศึกษาและการประกอบวิชาชีพ โดยส่วนราชการหรือเอกชนที่ได้รับใบอนุญาตให้จัดตั้งสถานศึกษา สถานฝึกและอบรม หรือสถานแนะนำทางจิต ได้รับเงินอุดหนุนจากรัฐเต็มจำนวน