เมื่อวันที่ 30 ต.ค. ที่ห้องประชุมคณะกรรมาธิการ N 407 ชั้น 4 อาคารรัฐสภา นายเลิศศักดิ์ พัฒนชัยกุล ประธานคณะกรรมาธิการป้องกันปราบปรามการฟอกเงินและยาเสพติด สภาผู้แทนราษฎร (กมธ.ปปง.สภาฯ) ได้เรียกประชุมคณะ กมธ.ปปง. ครั้งที่ 40 เพื่อพิจารณาเรื่องสำคัญ กรณีการพิจารณาศึกษา สอบหาข้อเท็จจริงกรณี บริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด (The iCon Group) ซึ่งประกอบธุรกิจการตลาดแบบตรง ขายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ มีพฤติการณ์ชักชวนประชาชนร่วมลงทุนเป็นจำนวนมาก ซึ่งอาจเข้าข่ายเป็นความผิดฐานตามกฏหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน โดย เชิญ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ผู้บัญชาการตำรจแห่งชาติ และผู้เสียหาย เข้าร่วมประชุม เพื่อให้ข้อมูล ข้อเท็จจริง และข้อเสนอแนะ เพื่อประกอบการพิจารณา
โดย สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ได้ส่งเจ้าหน้าที่ 8 นาย อาทิ นายวิทยา นีติธรรม ผู้อำนวยการกองกฏหมาย นายวรเศรษฐ์ สุรพนานนท์ชัย ผู้อำนวยการกองข่าวกรองทางการเงิน นายสมชัย พลายด้วง ผู้อำนวยการกองคดี 5 นายพงศ์ธร ทองด้วง ผู้อำนวยการส่วนนิติการ กองกฏหมาย และ นายกิตติพงศ์ ศรีมานนท์ ผู้อำนวยการส่วนปฏิบัติการงานคดี 5 ขณะที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ส่งเจ้าหน้าที่เข้ามชี้แจงจำนวน 2 นาย ประกอบด้วย พ.ต.อ.ภาคภูมิ ศรีลาภมาศ รองผู้บังคบการกองบังคับการปราบปรามกรกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค และ พ.ต.ท.ปริญญา ปาละ รองผู้กำกับการ 1 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง และมีผู้เสียหายจำนวน 8 คนและ ทีมงานของ กัน จอมพลัง จำนวน 2 คน
การประชุม นายเลิศศักดิ์ พัฒนชัยกุล ป.กมธ.ปปง. ได้นำเรื่อง การแก้ไขปัญหาภายใน คณะ กมธ.ฯ ซึ่งนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร มีหนังสือแจ้งประธานคณะกรรมาธิการของสภาผู้แทนทุกคณะ เนื่องจากมีปัญหาปรากฏภาพข่าวต่อสาธารณะเกี่ยวกับกรณีมีบุคคลเข้ามาในบริเวณรัฐสภา เพื่อถ่ายภาพ แอบอ้าง หลอกลวง เรียกรับผลประโยชน์อันมิชอบด้วยกฏหมาย ทำให้เกิดความเสียหาย ในส่วน กมธ.ปปง. ได้ยกเลิก คณะที่ปรึกษาฯ และได้ดำเนินการแต่งตั้งใหม่ ยืนยันไม่มีปัญหาในกรณีดังกล่าว จากนั้นได้เริ่มการพิจารณา ปัญหา The iCon Group ผู้แทนจาก ปคบ. ได้อธิบายถึงความคืบหน้าในการดำเนินคดีทราบว่า ตร.ทุกกองบัญชาการ และ ตำรวจภูธรจังหวัด ได้เปิดรับแจ้งความทั่วประเทศเนื่องจากมีผู้เสียหายเป็นจำนวนมาก และผู้เสียหายได้รับแจ้งความพร้อมสอบปากคำไปแล้ว 9,862 ราย ในมูลค่าความเสียหายกว่า 3 พันล้านบาท สำนวนบางส่วนได้ส่งมายัง ปคบ. ที่จะได้รวบรวมส่งต่อ ดีเอสไอ และในครั้งแรกได้ส่งไปแล้วเมื่อวันที่ 10-17 ตุลาคม มีการออกหมายจับ 18 ราย ข้อหาคดีฉ้อโกง , พ.ร.บ.คอมฯ ส่วนความผิดเกี่ยวกับ ฟอกเงิน กำลังเร่งสรุปสำรวนส่งต่อไปด้วย
ขณะที่ผู้แทนจาก สำนักงาน ปปง. แจ้งว่า หลังจากมีผู้เสียหายร้องทุกข์กรณีนี้ เมื่อวันที่ 10 ต.ค. ปปง. ได้ดำเนินการตามกฏหมาย ปปง. อย่างเคร่งครัด ถือเป็นเรื่องที่ประชาชนให้ความสนใจ เนื่องจากการใช้อำนาจของ ปปง. เป็นไปตามกฏหมายฟอกเงิน เกี่ยวกับคดีอาญาที่จำเป็นต้องใช้ด้วยความเข้มข้นตามที่กฏหมายกำหนดที่อยู่ในระหว่างการพิจารณาร่วมกันทุกฝ่าย รวมถึงการป้องกันการโยกย้ายถ่ายโอนทรัพย์สินเพื่อรักษาประโยชน์ให้กับผู้เสียหาย ที่ผ่านมาจึงมีการอายัดทรัพย์สินไว้ก่อนครั้งแรกจำนวน 130 กว่าล้านบาท แต่การที่ ปปง. จะใช้อำนาจ ปปง. เต็มรูปแบบ ต้องได้รับความเห็นชอบจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง อาทิ ศาล อัยการ มี ปปง.เป็น เลขานุการฯ ก็ได้นำเรื่องนี้เข้าที่ประชุมไว้แล้ว เมื่อวันที่ 17 ตค. เพื่อนำมาซึ่งความชัดเจนในการดำเนินการ
กรณี ความผิดมูลฐาน รวมถึงคดีอาญา เบื้องต้นที่ผ่านมา จึงได้ดำเนินการ ยึดทรัพย์สินไปแล้วรวม 4 ครั้ง มีมูลค่า 320 ล้านบาท การประชุม ผู้แทน ปปง. ยังได้พูดถึงความห่วงใยทางคดี ของนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี ที่กำกับดูแล สำนักงาน ปปง.ที่ได้เร่งรัดให้ ปปง. เร่งทำงานโดยเฉพาะกรณีการยึดทรัพย์สิน ที่มีระยะเวลาการตรวจสอบกรอบภายใน 90 วัน ที่เริ่มนับตั้งแต่วันที่ยึดทรัพย์นั้นๆ และการทำงานจำเป็นต้องมีการแบ่งแยกทรัพย์สินที่ยึดมาว่าจะตกเป็นของแผ่นดิน หรืออยู่ในส่วนของการคุ้มครองสิทธิ์ จึงต้องมีการใช้เวลา ทำให้ในขณะนี้ ปปง.กำลังเร่งดำเนินการรวบรวมทรัพย์สินที่ยึดมา เมื่อนิ่งแล้ว จึงจะให้ ผู้เสียหายเข้ามายื่นคุ้มครองสิทธิ์ ส่วนกรณีที่จะเกี่ยวข้องกับแชร์ลูกโซ่หรือไม่จึงขึ้นอยู่กับคำชี้แจงจาก สคบ.และ การดำเนินการสืบสวนสอบสวนของ ดีเอสไอ ต่อไป
นายเลิศศักดิ์ พัฒนชัยกุล ป.กมธ.ปปง.สภาฯ กล่าวว่า กรณี The iCon Group จำเป็นต้องมีการพิจารณาในเรื่อง คดีอาญามูลฐาน คดีอาญาฟอกเงิน ต้องสอบถามไปยัง สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ต้องชัดเจนว่า The iCon Group คือ บริษัทฯอะไร รูปแบบไหน รวมถึงแนวทางการดำเนินคดีที่ทราบว่าขณะนี้เรื่องนี้เป็นคดีพิเศษ กรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้เข้ามารับคดีแล้ว ก็จะต้องมีการเชิญเข้ามาชี้แจงในสัปดาห์หน้า ส่วนการอายัดทรัพย์สินเป็นเรื่องการตรวจสอบในอำนาจของ ปปง.และ ตร.ปคบ. ทั้งนี้คณะกรรมาธิการ ปปง. จะติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิดต่อไป