กระทรวงยุติธรรม โดยกรมราชทัณฑ์ และ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU)เมื่อวันที่ 24ต.ค.67 เรื่อง การขับเคลื่อนเรือนจำสีเขียว ด้วยนวัตกรรมการจัดการขยะอินทรีย์ โดย Black Soldier Fly (หนอน BSF) พร้อมขยายผลสู่ 143 เรือนจำและทัณฑสถานทั่วประเทศ โดยมีนายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ และ ดร.พิรุณ สัยยะสิทธิ์พานิช อธิบดีกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม ร่วมลงนามกับ

​ดร.พิรุณ กล่าวว่า การจัดการขยะมูลฝอยเป็นหนึ่งในกิจกรรมที่มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและก่อให้เกิดสภาวะโลกร้อน ซึ่งกว่าร้อยละ 35-40 ของขยะมูลฝอยชุมชนเป็นขยะเศษอาหาร นโยบายด้านการจัดการขยะมูลฝอยชุมชน จึงมุ่งเน้นการลดปริมาณขยะมูลฝอยตั้งแต่ต้นทาง ตามหลัก 3R (Reduce Reuse และ Recycle) และการคัดแยกขยะ เพื่อนำขยะมูลฝอยแต่ละประเภทไปกำจัดอย่างถูกวิธีและเป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนด โดยกระบวนการจัดการขยะมูลฝอยชุมชนที่ใช้ในปัจจุบัน อาทิ ระบบฝังกลบแบบถูกหลักสุขาภิบาล ระบบหมักทำปุ๋ย ระบบหมักแบบไร้อากาศ การเผาในเตาเผาและเผากลางแจ้ง มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกกว่า 8.66 ล้านตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า ซึ่งมากกว่าร้อยละ 50 ของปริมาณการปล่อยในภาคของเสียทั้งหมด (16.88 MtgCO2eq) (ข้อมูล ณ ปี พ.ศ. 2562/ค.ศ. 2019) กรมลดโลกร้อนจึงได้ร่วมกับกรมราชทัณฑ์ในการจัดการขยะเศษอาหารที่ต้นทางอย่างเหมาะสมด้วยหนอน BSF โดยได้มีการถ่ายทอดองค์ความรู้ให้แก่เรือนจำและทัณฑสถานในรูปแบบออนไลน์กว่า 136 แห่ง และลงมือปฏิบัติในพื้นที่นำร่อง 7 แห่ง พบว่า สามารถจัดการกับขยะเศษอาหารได้ดี และยังนำผลผลิตจากหนอน BSF ไปใช้ประโยชน์ทางการเกษตร ทั้งเป็นอาหารสัตว์และปุ๋ยอินทรีย์

 .            นายสหการณ์ กล่าวว่า กรมราชทัณฑ์เป็นหน่วยงานที่มีภารกิจในการควบคุมและแก้ไขพัฒนาพฤตินิสัยผู้ต้องราชทัณฑ์ ปัจจุบันมีผู้ต้องราชทัณฑ์ จำนวน 277,950 คน (ข้อมูล ณ วันที่ 21 ตุลาคม 2567) ซึ่งเป็นทรัพยากรมนุษย์ที่มีความสำคัญ ในการเปลี่ยนแปลงในทุกองคาพยพของสังคม โดยกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อมได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการให้ความรู้ในนวัตกรรมการจัดการขยะอินทรีย์ ด้วยการใช้หนอน BSF ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายและกิจกรรม Green Prison เรือนจำเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม สามารถลดปริมาณขยะเศษอาหาร และยังก่อให้เกิดประโยชน์ทางด้านการเกษตร ลดต้นทุนอาหารสัตว์และปุ๋ยอินทรีย์ อีกทั้งยังช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการจัดการขยะภายในเรือนจำและทัณฑสถานทั่วประเทศอีกด้วย โดยในปัจจุบัน มีเรือนจำและทัณฑสถานที่ดำเนินการเลี้ยงหนอน BSF เพื่อใช้ในการจัดการขยะอินทรีย์แล้ว จำนวน 17 แห่ง ซึ่งการลงนาม MOU ในวันนี้ จะเป็นการสร้างความร่วมมือและนำไปสู่การขยายการดำเนินงานไปยังเรือนจำและทัณฑสถาน 143 แห่งทั่วประเทศ

 ทั้งนี้ ภายใต้ MOU ดังกล่าว ทั้งสองหน่วยงานจะได้ร่วมกันสนับสนุนการดำเนินกิจกรรมการจัดการขยะอินทรีย์และขยะเศษอาหารในเรือนจำและทัณฑสถาน การนำผลผลิตที่ได้ไปใช้ประโยชน์ทางด้านการเกษตร ทั้งการใช้เป็นอาหารสัตว์ ปุ๋ยอินทรีย์ น้ำหมักชีวภาพ รวมถึงการประเมินปริมาณการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการจัดการขยะมูลฝอยภายในเรือนจำและทัณฑสถาน เพื่อก่อให้เกิดการยกระดับคุณภาพสิ่งแวดล้อม การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของประเทศไทย และลดผลกระทบจากเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศต่อไป