นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังคณะกรรมาธิการการเกษตรและสหกรณ์ สภาผู้แทนราษฎร เข้าพบ เพื่อหารือเกี่ยวกับนโยบายและมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรทั้งภายในประเทศและต่างประเทศของกระทรวงพาณิชย์ ในสินค้าเกษตรสำคัญ อาทิ ข้าว มันสำปะหลัง ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ผลไม้ และการจัดทำข้อมูลสินค้าเกษตร เป็นต้น โดยมีนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายชัย วัชรงค์ ผู้แทนการค้าไทย นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ นายศักดินัย นุ่มหนู ประธานคณะกรรมาธิการการเกษตรและสหกรณ์ รองประธานคณะกรรมาธิการ คณะกรรมาธิการการเกษตรและสหกรณ์ และคณะผู้บริหารกระทรวงพาณิชย์เข้าร่วมด้วย ที่ห้องประชุม 20610 ชั้น 6 กรมการค้าภายใน

นายพิชัย เปิดเผยว่า วันนี้คณะกรรมาธิการการเกษตรและสหกรณ์ สภาผู้แทนราษฎร ได้เข้าหารือตนเกี่ยวกับนโยบายและมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรของกระทรวงพาณิชย์ โดยคณะกรรมาธิการฯ ได้รับข้อร้องเรียนจากพี่น้องเกษตรกรในพื้นที่ต่างๆ จึงมารับฟังนโยบายกระทรวงฯ ซึ่งกระทรวงพาณิชย์มีภารกิจสำคัญในการช่วยเหลือเกษตรกรและรักษาเสถียรภาพราคาสินค้าสร้างความสมดุลในทุกมิติ ในพืชเศรษฐกิจสำคัญ (พืชหลัก) อาทิ ข้าว มันสำปะหลัง ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ และพืชเศรษฐกิจอื่นๆ (พืชรอง) อาทิ ผลไม้ ทุเรียน มังคุด เงาะ ลำไย ลิ้นจี่ ลองกอง สับปะรด และส้ม ฯลฯ นอกจากนี้ยังมีเรื่องการส่งเสริมตลาด และการส่งออกสินค้าเกษตร

โดยกระทรวงพาณิชย์ มีมาตรการดูแลค่าครองชีพและปัญหาปากท้องของประชาชน เพื่อสร้างความสมดุล ดูแลราคาสินค้าเกษตรสร้างความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจฐานรากพัฒนาผู้ประกอบการ SME ส่งเสริมการส่งออกและเจรจาเปิดเสรีการค้า (FTA) เร่งดึงเงินเข้ามาในประเทศ สร้างมูลค่าเพิ่มสินค้า/บริการ และการใช้ประโยชน์จากทรัพย์สินทางปัญญา อำนวยความสะดวกทางการค้า แก้ไขกฎหมายที่เป็นอุปสรรค ซึ่งปี 2567 ที่ผ่านมา กระทรวงพาณิชย์ร่วมกับภาคเอกชนออก 6 มาตรการ 25 แผนงาน และให้คนตัวใหญ่ช่วยคนตัวเล็ก ซึ่งประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี ทำให้ราคาสินค้าเกษตรและผลไม้ขึ้นสูงเป็นประวัติการณ์ สำหรับในปีหน้า ปี 2568 กระทรวงพาณิชย์ได้วางแนวทางมาตรการบริหารจัดการผลไม้ไว้ล่วงหน้าแล้วถึง 900,000 ตัน อาทิ มาตรการส่งเสริมการผลิต-แปรรูป การส่งเสริมตลาดในประเทศ ต่างประเทศ เพิ่มประสิทธิภาพทางการค้า อำนวยความสะดวกทางการค้า มาตรการทางกฎหมาย เป็นต้น

นายพิชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า โครงสร้างสินค้าเกษตรเป็นเรื่องที่สำคัญที่รัฐบาลจะต้องมาแก้ไข เพื่อให้เกษตรมีรายได้ดีขึ้นกว่านี้ และรัฐบาลได้ตั้งเป้าหมายที่จะทำให้ไทยเป็น ”Food Security“ แหล่งความมั่นคงทางอาหารให้กับประเทศต่างๆ ให้มีอาหารที่เพียงพอ จะช่วยให้เกษตรกรไทยขายสินค้าได้มากขึ้น นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์จะพยายามพัฒนาสินค้าไทยไปอีกระดับหนึ่ง เรียกว่า “Thailand Next Level” เพื่อให้ขายสินค้าได้ราคาสูงขึ้น โดยตนได้ไปโปรโมตมาที่อังกฤษให้เห็นว่าสินค้าเกษตรไทยเป็นสินค้าเกษตรที่มีคุณภาพมีศักยภาพ เพื่อชีวิตความเป็นของพี่น้องประชาชนที่ดีขึ้น

ด้านนายศักดินัย นุ่มหนู ประธานคณะกรรมาธิการการเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า ขอขอบคุณรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และผู้บริหารกระทรวงพาณิชย์ ที่เปิดโอกาสให้กรรมาธิการการเกษตรและสหกรณ์ ได้มีโอกาสเข้ามาหารือและสะท้อนปัญหาของพี่น้องเกษตรกร เพื่อช่วยทำให้เกษตรกรไทยสามารถขายสินค้าได้ราคาดี