เมื่อวันที่ 10 ก.ค. นายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย (มท.2) เป็นประธานพิธีมอบโฉนดที่ดินให้แก่ประชาชนในพื้นที่ บ้านนาสีดาน้อย ต.ชานุมาน อ.ชานุมาน จ.อำนาจเจริญ จำนวน 30 แปลง และบ้านหนองแสง ต.ดุมใหญ่ อ.ม่วงสามสิบ จ.อุบลราชธานี จำนวน 30 แปลง ตามโครงการ “มอบโฉนดที่ดินทั่วไทย นำสุขคลายทุกข์ให้ประชาชน” โดยมีนายวุฒิพงษ์ นามบุตร ส.ส.อุบลราชธานี พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ และประชาชน ร่วมในพิธี 

นายนิพนธ์ กล่าวว่า การมอบโฉนดที่ดินให้แก่ประชาชนเป็นไปตามนโยบายของกระทรวงมหาดไทย และนโยบายของกรมที่ดิน ในการเร่งรัดเดินสำรวจออกโฉนดที่ดินให้แก่ประชาชนที่ถือครองที่ดินอยู่ และได้ทำประโยชน์ในที่ดินนั้นมายาวนาน รวมทั้งที่ดินนั้นไม่ใช่ที่ดินของรัฐ โดยในปีงบประมาณ 64 กระทรวงมหาดไทย ตนฐานะกำกับดูแลกรมที่ดิน ได้ลงนามประกาศเดินสำรวจที่ดิน เพื่อออกโฉนดที่ดินหนังสือสำคัญของทางราชการแสดงกรรมสิทธิ์ที่ดินไปแล้ว 50 จังหวัด ตามโครงการ “มอบโฉนดที่ดินทั่วไทย นำสุขคลายทุกข์ให้ประชาชน” ให้กับประชาชนเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่ดิน เพื่อหลักประกันความมั่นคงในกรรมสิทธิ์ ในที่อยู่อาศัยและที่ทำกิน สามารถนำโฉนดที่ดินไปประกอบการพัฒนาในอาชีพของตนเอง เพิ่มผลผลิตและรายได้ ซึ่งเป็นผลดีในทางเศรษฐกิจของตนเอง

นายนิพนธ์ กล่าวด้วยว่า กรมที่ดิน กระทรวงมหาดไทย จะเดินออกสำรวจโฉนดที่ดินก็จะเร่งรัดดำเนินการต่อไปในส่วนต่างๆ ของประเทศให้ประชาชนได้สามารถเข้าถึงการมีเอกสารสิทธิในที่ดินของตนเอง ถือว่าเป็นความมั่นคงในการถือครองที่ดิน และเป็นการลดความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงการใช้ทรัพยากรที่ดินของชาติ สร้างความมั่นใจ ประชาชนไม่ต้องเสี่ยงต่อการถูกดำเนินคดี ข้อหาบุกรุกที่ดินของทางราชการ โดยโครงการที่ดินแห่งชาติ (คทช.) เป็นอีกโครงการหนึ่งที่จะเอาที่ดินของรัฐ ที่ประชาชนทำมาหากินอยู่แล้วมาจัดให้กับประชาชน แม้ว่าประชาชนจะไม่ได้กรรมสิทธิ์ในที่ดิน แต่ก็ถือว่าประชาชนเข้าทำกินโดยชอบ เพราะมีกฎหมายให้ดำเนินการได้ ขณะเดียวกันจะมีการดำเนินการเร่งรัดการออกเอกสารสิทธิโดยกรรมสิทธิ์ที่เป็น นส.3 และ นส.3ก ให้ออกเป็นโฉนดเพิ่มมากขึ้นด้วย

นอกจากนี้ นายนิพนธ์ ยังได้ขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย ทั้งแพทย์ พยาบาล บุคลากรต่างๆ ที่ได้ช่วยกันดูแลป้องกันสถานการณ์โควิด ซึ่งมีความรุนแรงมากขึ้น ซึ่งเจ้าหน้าที่ทุกท่านได้ช่วยกันทำงานอย่างหนักแข่งกับเวลาเพื่อดูแลรักษาชีวิตประชาชนไม่ให้เกิดการสูญเสีย ซึ่งตนขอเป็นส่วนหนึ่งในการให้กำลังใจและสนับสนุนการปฏิบัติหน้าที่เพื่อให้วิกฤติครั้งนี้ผ่านพ้นไปได้โดยเร็ว.