สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากกรุงไทเป สาธารณรัฐจีน เมื่อวันที่ 21 ต.ค. ว่า โช กล่าวในการให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวบลูมเบิร์กว่า ตราบใดที่ไต้หวันมีฉันทามติเกี่ยวกับความปลอดภัยด้านนิวเคลียร์ รวมถึงมีแนวทางที่ดี และหลักประกันในการจัดการกับกากนิวเคลียร์ ไต้หวันก็สามารถมีการอภิปรายกับสาธารณชนได้

“เราหวังว่าไต้หวันจะตามทันกระแสโลก และเทคโนโลยีนิวเคลียร์ใหม่ ๆ และไต้หวันจะไม่มีปัญหาเรื่องแหล่งจ่ายพลังงานสำหรับอุตสาหกรรมต่าง ๆ ก่อนปี 2573” โช กล่าวเพิ่มเติม พร้อมกับเน้นย้ำถึงการเปลี่ยนแปลงของรัฐบาลไทเป ซึ่งคัดค้านการใช้พลังงานนิวเคลียร์ด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย

อนึ่ง การสนับสนุนของชาวไต้หวัน ที่มีต่อการใช้เตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ในเกาะ ลดลงเมื่อปี 2554 หลังประเทศเพื่อนบ้านอย่างญี่ปุ่น เกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่สร้างความเสียหายต่อโรงไฟฟ้าฟุกุชิมะ

อย่างไรก็ตาม การต่อต้านพลังงานนิวเคลียร์ของไต้หวัน ดำเนินไปอย่างยากลำบากมากขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากความต้องการที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากการเติบโตของอุตสาหกรรมเอไอ ซึ่งส่งผลกระทบต่อผู้ผลิตชิปหลายราย เช่น บริษัท ไต้หวัน เซมิคอนดักเตอร์ แมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด หรือ ทีเอสเอ็มซี ยักษ์ใหญ่ด้านเซมิคอนดักเตอร์ของไต้หวัน

นอกจากนี้ โชยังเน้นย้ำถึงความสนใจที่จะหันมาใช้พลังงานนิวเคลียร์ในอนาคต ซึ่งเขาจะขอให้ผู้ให้บริการพลังงานที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐ ทำให้แน่ใจว่าบุคลากรดูแลเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ที่ถูกปลดประจำการแล้ว ยังคงมีงานทำต่อไป เนื่องจากรัฐบาลไทเปจำเป็นต้องเตรียมพร้อมสำหรับการพัฒนาเทคโนโลยีนิวเคลียร์ในอนาคต และตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงทางกฎหมายที่อาจเกิดขึ้นในไต้หวัน.

เครดิตภาพ : AFP