เมื่อวันที่ 10 ก.ค. นายอรรถพล  เจริญชันษา อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า วันนี้ได้ลงพื้นที่บริษัท หมิงตี้ เคมีคอล จำกัด เพื่อตรวจติดตามการเคลื่อนย้ายสารเคมีสไตรีน ซึ่งยังหลงเหลืออยู่ในถังบรรจุขนาดใหญ่ของบริษัท หมิงตี้ฯ ที่เกิดระเบิดและไฟลุกไหม้ไปกำจัดทำลาย ซึ่งศูนย์อำนวยการส่วนหน้าเหตุเพลิงไหม้โรงงานบริษัท หมิงตี้ฯ  และ คพ.ร่วมปฏิบัติการ พร้อมมีผู้ชำนาญการได้เข้าดูหน้างานและจัดเตรียมสถานที่เพื่อทำการเคลื่อนย้ายสารอันตรายดังกล่าว มีการประเมินความเสี่ยงทั้งในเรื่องพื้นที่และสภาพอากาศ เพื่อคำนึงถึงความปลอดภัยในการปฏิบัติการ โดยบริษัท เบตเตอร์  เวิลด์ กรีน จำกัด (มหาชน) ดำเนินการดูดสารสไตรีน จากถังบรรจุ และขนย้ายเพื่อนำไปเผาทำลายที่บริษัท อัคคีปราการ จำกัด (มหาชน) นิคมอุตสาหกรรมบางปู จ.สมุทรปราการ ซึ่งรถแต่ละคันจะรับสารเคมีได้ประมาณ 24 คิว จะต้องขนถ่ายประมาณ 24 เที่ยว โดยคาดว่าจะนำสารเคมีทั้งหมดออกไปทำลายได้ภายใน 5 วัน แต่ถ้าสภาพอากาศดีไม่มีอะไรติดขัด น่าจะเร็วขึ้นไม่เกิน 3 วัน  

นายอรรถพล  กล่าวต่อว่า การทำลายสารสไตรีน โดยการนำไปเผาทำลายที่เตาเผาอุณหภูมิสูง ที่มีความร้อน 1,000 องศาเซลเซียสขึ้นไป ที่เตาเผาของบริษัทอัคคีปราการ จำกัด(มหาชน) ขั้นตอนการทำลายสารเคมีประเภทนี้ทำลายโดยการฉีดเข้าไปในเตาเผา เพื่อทำลายโมเลกุล ต้องให้ความร้อนและเวลาในการเผาไหม้ โดยคาดว่า จะเผาได้ชั่วโมงละ 1 ตัน เพื่อลดความเดือดร้อนของประชาชนที่ต้องการจะกลับเข้าบ้านเรือนของตน บริษัทฯ ได้จัดเตรียมแท็งก์หรือที่กักเก็บขนาด 600 ตัน และดูดไปเก็บไว้ที่แท็งก์ดังกล่าว เพื่อทยอยนำไปทำลายต่อไป  

นายอรรถพล กล่าว่า สำหรับผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศวันที่ เมื่อเวลา 12.00 น. ใน จ.สมุทรปราการ กทม. และบริเวณที่ห่างจากจุดเพลิงไหม้บริษัท หมิงตี้ฯ รัศมีตั้งแต่ 1–20 กม.พบว่า คุณภาพอากาศในภาพรวมอยู่ในระดับไม่มีผลกระทบต่อสุขภาพอนามัย สารมลพิษทางอากาศโดยทั่วไปมีค่าอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานทุกพื้นที่ ประชาชนสามารถทำกิจกรรมได้ตามปกติ โดย คพ. จะยังคงเฝ้าระวังในรัศมี 1 กม.จากจุดเกิดเหตุเพลิงไหม้อย่างต่อเนื่อง และจะรายงานให้ทราบเป็นระยะต่อไป  โดยสามารถติดตามคุณภาพอากาศแบบ Real-time ผ่านทางเว็บไซต์ และแอพพลิเคชั่น Air4thai