เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 17 ต.ค. ที่รัฐสภา นางบุญยิ่ง นิติกาญจนา สส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การคุ้มครองผู้บริโภค สภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ถึงการเชิญผู้บริหารสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) และตำรวจสอบสวนกลาง มาหารือในกรณีของบริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป จำกัด ว่า เป็นการเชิญมาเพื่อสอบถามว่าในขณะนี้ดำเนินการถึงขั้นไหนแล้ว และอยากให้เร่งดำเนินการช่วยเหลือทันที อย่างเร่งด่วนและเด็ดขาด เพื่อไม่ให้ประชาชนเกิดความวิตกไปมากกว่านี้
นางบุญยิ่ง กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ในแง่รายละเอียดภาพรวม อยากให้ประชาชนที่เข้าไปมีส่วนร่วมอย่างรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ได้รับการช่วยเหลือแก้ไขและได้รับการคืนเงินให้โดยเร็วที่สุด เพราะมีหลายครอบครัวที่ลำบากมาก เช่น การโกรธเคืองกันในครอบครัว เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ในสังคมไทย เพราะจากที่ตนดูข่าวผ่านทางในสื่อนั้น เห็นว่าผู้บริหาร บริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป จำกัด มีทรัพย์สินจำนวนมาก ถ้านำส่วนนั้นมาเร่งช่วยเหลือทุกคน ก็คงไม่เกินกำลัง พร้อมยืนยันว่าการประชุมวันนี้ จะมีประโยชน์กับภาครัฐและประชาชนที่โดนเอารัดเอาเปรียบ
เมื่อถามถึงกรณีเรื่องคลิปเสียงของคนที่อ้างว่าเคลียร์กรรมาธิการได้ นางบุญยิ่ง กล่าวว่า สุดท้ายเราต้องรู้ว่าเป็นใคร วันนี้สิ่งที่เป็นเรื่องผิดก็ต้องผิด หากไม่ผิด ก็ไม่ผิด ซึ่งช่วงหนึ่งมีการพาดพิงถึงกรรมาธิการ รวมถึงกรรมาธิการการคุ้มครองผู้บริโภคด้วย โดยเรื่องนี้เคยเกิดขึ้นเมื่อ 2 ปีที่แล้ว ซึ่งมีเรื่องร้องเรียนเข้ามาในกรรมาธิการชุดนี้ และในวันนั้นกรรมาธิการก็ได้ส่งให้ สคบ. พิจารณา และมีการไกล่เกลี่ยเงินชดเชยชดใช้ให้เป็นที่พอใจของผู้ร้องและจบด้วยดี
“ถ้าดิฉันพูดตอนนี้ จะรู้ว่าเป็นใคร ดิฉันเชื่อว่าเดี๋ยวดิฉันจะโดนฟ้อง ดิฉันขอเวลาให้เรื่องนี้กระจ่างกว่านี้ ตอนนี้หากพูดไปจะพาดพิงเขา เพราะมันชัดเจนเกินไป เหมือนเป็นการรังแกเขา” นางบุญยิ่ง กล่าว
ขณะที่นายประเสริฐพงษ์ ศรนุวัตร์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน กล่าวว่า ตนอยู่กรรมาธิการการคุ้มครองผู้บริโภค สมัยที่ 2 แล้ว และเคยมีเรื่องร้องเรียนกรณีบริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป จำกัด เข้ามาแล้วเช่นเดียวกัน ในสมัยที่แล้วมีการไกล่เกลี่ยและจบไป แต่ประเด็นที่จะพิจารณาวันนี้ คือการถามหน่วยงานราชการ และ สคบ. น่าจะมีคำตอบให้เรา ซึ่งในภาพรวมที่มีข่าวออกไป อาจจะทำให้ภาพของ สคบ. เสื่อม เพราะ สคบ. เป็นองค์กรที่มีบุคลากรที่มีความรู้ และน่าเชื่อถือเยอะ อาจจะมีคนบางกลุ่มเท่านั้นที่ไปแอบอ้าง เราเชื่อว่าจะได้ตัวจริงของคนที่รับจดทะเบียน ตัวจริงที่รับเรื่องร้องเรียน แล้วพัวพันกับผลประโยชน์บริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป จำกัด แน่นอน
เมื่อถามว่ากรณีเมื่อ 2 ปีที่แล้ว ที่มีเรื่องร้องเรียนเข้ามา ได้มีการตรวจสอบหรือไม่ว่าบริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป จำกัด ทำธุรกิจตามที่ได้จดทะเบียนไว้ นายประเสริฐพงษ์ กล่าวว่า ครั้งที่แล้ว สคบ. ได้วินิจฉัยแล้วว่าบริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป จำกัด ทำธุรกิจไม่ตรงกับที่จดทะเบียนไว้ แต่เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงผู้ปฏิบัติใน สคบ. ทาง บริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป จำกัด ได้มีการไปยื่นขอจดทะเบียนใหม่ จึงไม่ได้เอาเรื่องเก่าขึ้นมาประกอบการพิจารณาของคนที่อนุมัติให้จดทะเบียน
นายประเสริฐพงษ์ กล่าวต่อว่า ประเด็นหลักที่จะที่ถามคือเรื่องเทวดาหรือลูกกรอกใน สคบ. ซึ่งคาดว่าน่าจะได้คำตอบแน่นอนเพราะเอกสารทางราชการมีอยู่ชัดเจน และพอที่จะเปิดเผยได้หลังจากการประชุม ซึ่งเรื่องนี้คิดว่า เป็นความผิดพลาดของหน่วยงานราชการบางหน่วยเท่านั้น และเป็นจุดบกพร่องของผู้ปฏิบัติงานบางคน อาจจะทำให้องค์กรเสียหาย แต่วันนี้ได้มีตัวแทนขององค์กรในระดับผู้บริหารมา ก็น่าจะทำให้กระจ่างได้ไปเยอะ ตนยืนยันว่าฝ่ายการเมืองคงไม่มีใครเข้าไปเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์พวกนี้ หากเข้าไปคงโดนแน่นอน
