จากเหตุเพลิงไหม้รถโดยสารทัศนศึกษาของเด็กนักเรียนโรงเรียนวัดเขาพระยาสังฆาราม จังหวัดอุทัยธานี เกิดเพลิงไหม้บนถนนวิภาวดีรังสิตขาเข้า เมื่อวันที่ 1 ต.ค. 2567 ยังมีผู้ป่วยรับการรักษาในโรงพยาบาลจำนวน 3 คน โดยมี 2 คน คือนักเรียนหญิงอายุ 9 ขวบ และ 7 ขวบ เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ส่วนอีก 1 คน เป็นนักเรียนหญิง อายุ 14 ปี เข้ารับการรักษาที่ สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี (รพ.เด็ก) กรมการแพทย์
ล่าสุดวันที่ 12 ต.ค. โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ฯ รายงานผลการรักษา รายแรก เด็กหญิงอายุ 9 ขวบ ซึ่งไฟไหม้ใบหน้า คอ แขนและมือทั้ง 2 ข้าง แผลไหม้ระดับที่สอง (Second degree burn 30%) นั้น ทีมกุมารแพทย์ รายงานว่า ขณะนี้ สัญญาณชีพปกติ ให้ออกซิเจนช่วยการหายใจ ไม่หอบเหนื่อย สามารถพูดสื่อสารความต้องการได้ แพทย์ได้ปรับยาแก้ปวดและยานอนหลับ ผู้ป่วยรับอาหารทางการแพทย์ผ่านสายให้อาหารทางจมูกได้ดี อาการไข้แนวโน้มลดลง ยังคงให้ยาปฏิชีวนะทางหลอดเลือดดำอย่างต่อเนื่อง เฝ้าระวังภาวะติดเชื้อรุนแรง มีภาวะสารน้ำในร่างกายเกิน ใช้ยาขับปัสสาวะเพื่อขับน้ำเกินในร่างกาย
ส่วนทีมศัลยแพทย์ รายงานว่า ปัจจุบันผู้ป่วยตื่นรู้สึกตัวมากขึ้น สามารถหายใจเองได้โดยมีออกซิเจนเสริมบางส่วน รับอาหารทางการแพทย์ตามแผนการรักษา เพื่อเสริมการรักษาของแผลได้ตามเป้าหมาย ดื่มน้ำ ไอศกรีมทางปากได้ ทำแผลด้วยแผ่นป้องกันการติดเชื้อ ลดการเปิดแผล เพื่อส่งเสริมการหายของแผล ไม่มีหนองแต่ยังคงมีน้ำเหลืองค่อนข้างมากในบริเวณแขนซ้าย ขณะที่ ทีมจักษุแพทย์รายงานว่า ผู้ป่วยสามารถหลับตา ลืมตาได้ดีขึ้น การมองเห็น เริ่มดีขึ้นนับนิ้ว (มีเยื่อรกบัง) รกและคอนเทคเลนส์อยู่ตำแหน่งเหมาะสม สำหรับแผนการรักษาคือ ยังเฝ้ารอเยื่อรกและเซลล์ต้นกำเนิดสมานผิวกระจกตา และค่อยๆ ละลาย
รายที่ 2 เป็นเด็กหญิง อายุ 7 ขวบ ซึ่งมีไฟไหม้ใบหน้า และลำตัว แผลไหม้ระดับที่สอง (Second degree burn 13%) ทีมกุมารแพทย์ รายงานว่า สัญญาณชีพปกติ สามารถหายใจได้เองโดยไม่ต้องใช้ออกซิเจน สามารถพูดสื่อสารความต้องการได้ แพทย์ได้ปรับยาแก้ปวดและยานอนหลับ ผู้ป่วยรับอาหารทางการแพทย์ผ่านสายให้อาหารทางจมูกได้ดี ปัสสาวะออกปกติ ใช้อุปกรณ์บีบคลายขาทั้ง 2 ข้าง เพื่อป้องกันลิ่มเลือดในหลอดเลือดดำส่วนลึกอุดตัน อาการไข้แนวโน้มลดลง ไม่พบตำแหน่งติดเชื้อแน่ชัด ให้ยาปฏิชีวนะทางหลอดเลือดดำ เฝ้าระวังการติดเชื้อรุนแรง ส่วนทีมศีลยแพทย์ รายงานว่า แผลคงที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลง แผนการรักษาเดิม ขณะที่ทีมจักษุแพทย์ รายงานว่า ผู้ป่วยหลับตาลืมตาได้ดีขึ้น การมองเห็น เริ่มดีขึ้นนับนิ้ว (มีเยื่อรกบัง) รกและคอนเทคเลนส์อยู่ตำแหน่งเหมาะสม แผนการรักษาคือ รอเยื่อรกและเซลล์ต้นกำเนิดสมานผิวกระจกตาและค่อยๆ ละลาย
รายที่ 3 เป็นเด็กหญิงอายุ 14 ปี รักษาตัวที่ รพ.เด็ก ซึ่งออกแถลงการณ์ฉบับที่ 10 แจ้งอาการผู้ป่วยว่า อาการดีขึ้น บาดแผลไฟไหม้โดยรวมดีขึ้นแต่ยังต้องเฝ้าระวังบาดแผลแขนซ้าย ตอบสนองต่อการรักษาดี ไม่พบการติดเชื้อ ไม่มีปัญหาข้อติดยึด สามารถทำกายบริหาร ยืดเหยียดข้อไหล่ ข้อศอก เพื่อป้องกันข้อติด และทำกิจกรรมถักเชือก เพื่อเพิ่มการใช้งานของข้อมือนิ้วมือ และฝึกความสนใจจดจ่อได้ดี ด้านจิตใจ อารมณ์คงที่ นอนหลับได้ดี เริ่มมีแผนการดำเนินชีวิต และวิธีการจัดการกับความกังวลที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต ผลการรักษาเป็นที่พึงพอใจของทีมแพทย์ แต่ต้องใช้เวลาในการรักษาและฟื้นฟูทั้งร่างกายและจิตใจ.