นายสิทธิกร ดิเรกสุนทร กรรมการและผู้จัดการทั่วไป บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) เปิดเผยว่า ผลดำเนินงาน บสย. ช่วง 9 เดือนปี 67 (ม.ค.-ก.ย.) สามารถช่วยค้ำประกันสินเชื่อให้เอสเอ็มอี เข้าถึงระบบสินเชื่อ 34,543 ล้านบาท ก่อให้เกิดมูลค่าทางเศรษฐกิจได้มากกว่า 141,189 ล้านบาท มีผู้ประกอบการได้รับสินเชื่อเพิ่มขึ้นมากกว่า 70,634 ราย แบ่งเป็นกลุ่มรายย่อย สัดส่วนถึง 91% ค้ำประกันสินเชื่อเฉลี่ย 90,000 บาทต่อราย

ส่วนอีก 9% เป็นกลุ่มเอสเอ็มอี ค้ำประกันสินเชื่อเฉลี่ย 4.71 ล้านบาทต่อราย ก่อให้เกิดสินเชื่อในระบบสถาบันการเงินได้กว่า 36,221 ล้านบาท รวมถึงรักษาการจ้างงานไม่น้อยกว่า 311,948 ตำแหน่ง

สำหรับโครงการค้ำประกันสินเชื่อที่เป็นมาตรการรัฐ และโครงการค้ำประกันสินเชื่อที่ บสย. พัฒนาเอง แบ่งเป็นโครงการตามมาตรการรัฐ 16,942 ล้านบาท ช่วยเอสเอ็มอีได้ 65,356 ราย โครงการค้ำประกันสินเชื่อดอกเบี้ยถูก (พ.ร.ก.สินเชื่อฟื้นฟู ระยะที่ 2) วงเงิน 9,893 ล้านบาท ช่วยได้ 1,543 ราย โครงการค้ำประกันสินเชื่อดำเนินการโดย บสย. วงเงิน 7,351 ล้านบาท ช่วยได้ 4,255 ราย

“ผลงานค้ำประกันที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะโครงการพีจีเอส 11 บสย. เอสเอ็มอี ยั่งยืน ถือว่าได้รับการตอบรับที่ดี หลังจาก บสย. ได้ลงนามความร่วมมือ ในระยะเวลากว่า 2 เดือน มียอดค้ำประกันสินเชื่อไปแล้ว 12,048 ล้านบาท ซึ่งมีสิทธิประโยชน์ต่างๆ ที่รัฐบาลให้การสนับสนุน อาทิ ฟรีค่าธรรมเนียมค้ำประกันสินเชื่อ เริ่มต้น 2 ปีแรก และสูงสุดถึง 4 ปีแรก สำหรับประเภทธุรกิจค้ำประกันสูงสุด 3 ลำดับแรก ได้แก่ 1. ภาคบริการ 27.78% 2. การผลิตสินค้าและการค้าอื่นๆ 11.98% และ 3. อาหารและเครื่องดื่ม 9.87%”

นายสิทธิกร กล่าวว่า บสย. ได้ให้คำปรึกษาทางการเงิน โดยศูนย์ที่ปรึกษาทางการเงินมีผู้ใช้บริการรวม 21,737 ราย แบ่งเป็นผู้ลงทะเบียนขอรับคำปรึกษา 6,746 ราย และลงทะเบียนเข้าอบรม 14,991 ราย โดยมีความต้องการสินเชื่อ 17,000 ล้านบาท ช่วยผู้ประกอบการเข้าถึงสินเชื่อได้ 14.92% นอกจากนี้ บสย. ยังประสบความสำเร็จใน มาตรการปรับโครงสร้างหนี้ บสย. พร้อมช่วย มาตรการ 4 สี ม่วง เหลือง เขียว และฟ้า ช่วยตัดต้นก่อนตัดดอก และดอกเบี้ย 0% โดยตลอด 9 เดือนที่ผ่านมา มีลูกหนี้ที่ได้รับการปรับปรุงโครงสร้างหนี้แล้ว 2,727 ราย แบ่งเป็นลูกหนี้กลุ่มที่มีศักยภาพในการชำระคืนเงินต้นบางส่วนแต่ต้องการปลอดดอกเบี้ย หรือสีเขียว สูงถึง 73% ตามด้วยลูกหนี้กลุ่มที่จ่ายไหวเพียงบางส่วน หรือสีเหลือง 20% และลูกหนี้กลุ่มเปราะบาง หรือสีม่วง 7%