นายชนะพล มหาวงษ์ ผู้จัดการกองทุนประกันวินาศภัย (กปว.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ กปว.มีความพร้อมให้เจ้าหนี้บริษัท สินมั่นคงประกันภัย จำกัด (มหาชน) ยื่นคำขอรับชำระหนี้ ผ่านทางเว็บไซต์กองทุนประกันวินาศภัย www.GIF.or.th ซึ่งจะเปิดให้ยื่นได้ทางช่องทางออนไลน์เท่านั้น เริ่มตั้งแต่ 08.30 น. ของวันที่ 9 ก.ย. 67 เป็นต้นไป โดยเมื่อยื่นแล้วเจ้าหนี้จะได้รับเลขคำทวงหนี้ ซึ่งจะต้องมีการพิมพ์ออกมาเป็นหลักฐาน และนำส่งพร้อมหลักฐานเอกสารตัวจริงมาที่กองทุนฯ ต่อไป
“การเปิดยื่นคำขอทวงหนี้ มีระยะเวลาดำเนินการ 60 วัน ถึงเวลา 16.30 น. วันที่ 7 พ.ย. 67 ซึ่งทาง กปว.ได้เตรียมพร้อม โดยมีการเพิ่มเซิร์ฟเวอร์จากปกติ 4 ตัว เพิ่มเป็น 32 ตัว และมีการตั้งทีมติดตามระบบ 24 ชั่วโมง หากระบบล่มจะแก้ไขได้ทันท่วงที ขณะเดียวกันยังได้เตรียมสายด่วน 1186 อีก 30 คู่สายไว้รองรับด้วย”
ปัจจุบัน สถานะกองทุนฯ มีเจ้าหนี้เดิมจาก 4 บริษัทประกันที่ปิดไปแล้ว 6 แสนราย คิดเป็นมูลหนี้ค้างชำระ 4.8 หมื่นล้านบาท ส่วนเจ้าหนี้ใหม่ที่คาดจะเข้ามาจากการปิดสินมั่นคง ประเมินว่า มีเจ้าหนี้ผู้ได้สิทธิ 8 แสน ถึง 1 ล้านคน และคาดว่าจะมีเข้ามายื่น 4-6 แสนราย ทำให้จะมีเจ้าหนี้รวมมากถึง 1-1.2 ล้านราย คิดเป็นมูลหนี้กว่า 8-9 หมื่นล้านบาท ซึ่งเป็นหน้าที่ กปว.จะต้องเร่งชำระให้หมด โดยมีการชำระหนี้ให้แบบใครยื่นก่อนมีสิทธิก่อน
นายชนะพล กล่าวว่า ที่ผ่านมากองทุนฯ ได้จ่ายหนี้ไปแล้ว 7,000 ล้านบาท พร้อมกับจะมีการปรับแผนการจ่ายหนี้ จากเดิมใช้วิธีตรวจสอบไปจ่ายเงินไป เป็นตรวจสอบข้อมูลทั้งหมดทีเดียวกว่า 1 ล้านราย ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาตรวจสอบประมาณ 2 ถึงจะครบหมด ส่วนการจ่ายหนี้จะใช้วิธีจ่ายตามรอบเงินที่เข้ามา ส่วนวิธีการระดมทุน ขณะนี้กองทุนไม่สามารถหาแหล่งเงินกู้ 3,000 ล้านบาท ตามที่ได้รับการค้ำประกันจากสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) ได้ เนื่องจากไม่มีสถาบันการเงินไหนปล่อยกู้ ทำให้เหลือช่องทางจากเงินสมทบจากเบี้ยประกันเพียงอย่างเดียว
“การจ่ายหนี้หมดจะต้องรอ 80 ปีหรือไม่ ตอนนี้ กองทุนกำลังหาทางเร่งแก้ไขอยู่ ซึ่งกำลังจ้างที่ปรึกษาการเงิน เข้ามาช่วยดูแลเรื่องการจัดหาแหล่งเงิน รวมถึงการแก้ข้อกฎหมาย เพราะตอนนี้กฎหมายระบุให้มีการคุ้มครองเจ้าหนี้ประกันสูงสุดถึง 1 ล้านบาทต่อราย”
นายวิเชียร ชุบไธสง นายกสภาทนายความ กล่าวว่า ขณะนี้ มีเจ้าหนี้ประกันภัยเข้ามายื่นขอให้สภาทนายความ ช่วยดำเนินการทวงหนี้กว่า 3-4 แสนราย ซึ่งสภาทนายความได้นัดหารือกับกระทรวงการคลัง สำนักนายกรัฐมนตรี สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย และกปว.ไปแล้ว เพื่อหาแนวทางช่วยเหลือ โดยรัฐบาลได้รับเรื่องไปช่วยดูแล
ทั้งนี้ สภาทนายความ มีข้อเสนอให้รัฐบาลต้องเป็นตัวกลาง เข้ามาช่วยแก้ไขอย่างจริงจัง โดยเฉพาะการจัดหาแหล่งเงินให้กองทุนมาใช้จ่ายลูกหนี้ เจ้าหนี้ โดยเงินก้อนแรกจะใช้สินทรัพย์จากสินมั่นคงที่มีสินทรัพย์อยู่ประมาณ 5,000 ล้านบาท ให้รัฐบาลช่วยมาค้ำประกันให้กองทุนหาแหล่งเงินกู้ 10,000 ล้านบาท และให้รัฐบาลจัดสรรงบประมาณ 20,000 ล้านบาท เข้ามาให้กองทุนสองหมื่นล้าน ซึ่งเชื่อว่าเม็ดเงินระดับนี้จะเพียงพอที่จะทำให้สามารถเจรจาปรับโครงสร้างกับเจ้าหนี้ให้ยอมรับได้แต่จะต้องมีความชัดเจนและระยะเวลาการจ่ายที่แน่นอนเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับเจ้าหนี้