เมื่อวันที่ 1 ก.ย. 67 นายคงกฤษ ฉัตรมาลีรัตน์ สส.ระนอง พรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวว่า เมื่อเร็วๆ นี้ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรที่ผ่านมา ตนได้หารือผ่านประธานสภาผู้แทนราษฎร ไปยังรัฐบาล เกี่ยวกับการพัฒนาท่าเรือ และการค้าระหว่างประเทศ ซึ่ง จ.ระนอง ถือว่าเป็นจังหวัดแรกของภาคใต้ฝั่งอันดามันซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการขนส่งสินค้าฝั่งอันดามันไปยังฝั่งอ่าวไทย ปัจจุบันนี้มีผู้ประกอบการการขนส่งสินค้า ทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติได้มาใช้บริการของการท่าเรือเพิ่มเป็นจํานวนมาก ทําให้มีพื้นที่ไม่เพียงพอในการขนส่งสินค้าในการรองรับรถบรรทุกที่จอดรอขนส่งสินค้าขึ้นเรือได้ ซึ่งถือได้ว่าเป็นปัญหาที่ไม่เคยเกิดขึ้นที่ จ.ระนอง มาก่อน
นายคงกฤษ กล่าวต่อว่า เมื่อวันที่ 26 ส.ค.ที่ผ่านมา ได้ลงพื้นที่ร่วมกับนายราชัน มีน้อย รองผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง พาณิชย์จังหวัดระนอง หอการค้า หัวหน้าส่วนราชการ ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการท่าเรือ จ.ระนอง ที่เกี่ยวข้องได้หารือแนวทางการยกระดับการพัฒนาท่าเรือระนอง รองรับการส่งออกสินค้านําเข้าระหว่างประเทศ ในการที่จะสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน ซึ่งจากการประชุมหารือที่ผ่านมาได้ข้อสรุปว่า ขอฝากถึงรัฐบาลให้เร่งแก้ไขปัญหาในระยะสั้นที่เกิดขึ้น ดังนี้ 1.พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานท่าเรือ ถนน ลานจอดรถ จุดพักวางตู้คอนเทเนอร์ บอนดิด แวร์เฮ้าส์ และสิ่งอํานวยความสะดวกในการนําเข้าส่งออกของสินค้า 2.การพัฒนาพื้นที่ในการรองรับการขยายตัวของการขนส่งสินค้า 3.การส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศในกลุ่ม BIMSTEC และ 4.การเปลี่ยนถ่ายตู้สินค้าที่ จ.ระนอง สําหรับสินค้าข้ามแดน
“วันนี้ จ.ระนอง ถือได้ว่ามีศักยภาพในการพัฒนา และเป็นศูนย์กลางของการขนส่งสินค้าทางฝั่งทะเลอันดามันในอนาคต ดังนั้นจึงขอฝากผ่านไปยัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และครม.ชุดใหม่ที่จะเกิดขึ้นรวมถึงหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ที่จะต้องเร่งสร้างความเชื่อมั่น และผลักดันในการค้า และการขนส่งระหว่างประเทศในกลุ่ม BIMSTEC ซึ่งจะเป็นจุดเริ่มต้นของการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้อย่างยั่งยืน (SEC) และยังมีโครงการแลนด์บริดจ์เป็นส่วนหนึ่งที่จะพัฒนาเศรษฐกิจระนองของพ่อแม่พี่น้องภาคใต้ และรวมถึงประเทศไทยต่อไป” นายคงกฤษ กล่าว.