สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากกรุงเตกูซิกัลปา ประเทศฮอนดูรัส เมื่อวันที่ 30 ส.ค. ว่า ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐกับฮอนดูรัส ปะทุขึ้นในสัปดาห์นี้ หลังนางลอรา โดกู เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำฮอนดูรัส รู้สึก “ประหลาดใจ” ที่ได้เห็นบรรดาผู้นำทหารระดับสูงของฮอนดูรัส พบปะนั่งคุยกับ “ผู้ค้ายาเสพติด” ซึ่งเธอบอกเป็นนัยถึง พล.อ.วลาดิเมียร์ ปาดริโน รมว.กลาโหมของเวเนซุเอลา

ทว่าการแสดงความกังวลของโดกู กลับทำให้กัสโตร สั่งให้รัฐบาลของเธอถอนตัวจากสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดน โดยกล่าวว่า สนธิสัญญาฉบับนี้ถูกใช้เพื่อแทรกแซงกิจการภายในประเทศ

“มันมีแผนการที่จะโจมตีรัฐบาลของฉัน และมันเป็นสิ่งสำคัญที่ประชาชนต้องทราบถึงเรื่องนี้ ซึ่งฉันจะไม่อนุญาตให้สนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดน ถูกใช้เพื่อข่มขู่หรือแบล็กเมล์กองทัพฮอนดูรัส” กัสโตร กล่าวเพิ่มเติม

อีกด้านหนึ่ง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ กล่าวในแถลงการณ์ว่า สนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนข้างต้น ยังคงมีผลบังคับใช้อยู่ พร้อมกับยืนกรานว่า การส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน เป็นประโยชน์ร่วมกันสำหรับทั้งสองประเทศ

“เราขอเรียกร้องให้รัฐบาลฮอนดูรัส พิจารณาการตัดสินใจถอนตัวออกจากสนธิสัญญาอีกครั้ง” โฆษกกล่าวเสริม โดยให้เหตุว่า ความพยายามในการต่อสู้กับการค้ายาเสพติด จะได้รับผลกระทบจากการถอนตัวของฮอนดูรัส

ทั้งนี้ สนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดน ซึ่งมีผลบังคับใช้มานานกว่า 100 ปี อำนวยความสะดวกในการส่งตัวคนร้ายชาวฮอนดูรัสที่ฉาวโฉ่ ไปยังสหรัฐ ซึ่งรวมถึงอดีตประธานาธิบดี ฮวน ออร์ลันโด เฮอร์นันเดซ.

เครดิตภาพ : AFP