เมื่อวันที่ 29 ส.ค. ที่ วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งอยู่ระหว่างการนำเสนอยูเนสโกพิจารณาขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ในระหว่างปี 2567-2569 นายมีเกียรติ อ้นทอง หรือ “เอก ลิกอร์” กรรมการโครงการพระธาตุมรดกโลก นายไพฑูรย์ อินทศิลา ผู้สื่อข่าวอาวุโส ประธานกิตติมศักดิ์จัดหาทุนสร้างโบสถ์วัดเขาพระทอง ตำบลเขาพระทอง อำเภอชะอวด จังหวัดนครศรีธรรมราช พร้อมพระมหาอารยนันต์ อานันโท เจ้าอาวาสวัดเขาพระทอง เดินทางเข้ากราบนมัสการพระธรรมวชิรากร เจ้าอาวาสวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 16 (ธรรมยุต) เพื่อขอกราบชนวนมวลสารนำไปใช้ในการจัดสร้างเหรียญพังพระกาฬ เพื่อระดมทุนในการสร้างโบสถ์วัดเขาพระทอง ที่ค้างคาให้แล้วเสร็จ หลังทราบว่าทางวัดพระมหาธาตุฯ ได้มีการเปลี่ยนกระดิ่งระฆังขนาดเล็ก ที่แขวนรอบองค์พระบรมธาตุเจดีย์ โดยปลดของเก่านำมาเก็บไว้

พระมหาอารยนันต์ ได้กราบขอกระดิ่งระฆังจำนวน 3 ใบ ปรากฏว่า พระธรรมวชิรากร ได้สั่งให้พนักงานเจ้าหน้าที่ ไปนำระฆังหรือกระดิ่งมาให้จำนวน 4 ใบ แต่ปรากฏว่า เจ้าหน้าที่ได้นำมาให้จำนวน 5 ใบ โดยได้บริกรรมคาถาเจริญพระพุทธมนต์และจารลงอักขระเลขยันต์โบราณลงบนระฆัง เพื่อความเป็นสิริมงคล ก่อนนำใส่พานขนาดใหญ่รวมกันมอบให้พระมหาอารยนันท์

พระธรรมวชิรากร กล่าวว่า เจ้าอาวาสวัดเขาพระทอง ขอระฆัง 3 ใบ หมายถึงพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ อาตมาสั่งให้นำมาให้ 4 ใบ ซึ่งหมายถึงอริยสัจ 4 คือ ทุกข์ ความเป็นทุกข์ สมุทัย คือสาเหตุของทุกข์ นิโรธคือเป้าหมายของการดับทุกข์ มรรคคือวิธีการดับทุกข์ ซึ่งเป็นหลักธรรมที่เป็นหัวใจของพระพุทธศาสนา ซึ่งสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงตรัสรู้หรือค้นพบเพื่อดับทุกข์ แต่เจ้าหน้าที่กลับนำมาให้ 5 ใบ อาตมาก็เลยมอบให้ไปทาง 5 ใบ ซึ่งหมายถึงขันธ์ 5 หลักธรรมสำคัญในคำสั่งสอนของพระพุทธศาสนาเช่นกันคือ รูป (กาย), เวทนา (ความรู้สึก), สัญญา (ความจำ), สังขาร (สิ่งปรุงแต่ง) และวิญญาณ (ความรู้แจ้ง) เพื่อนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์กับการจัดสร้างวัตถุมงคล “พระพังพระกาฬ” ศาลหลักเมืองนครศรีธรรมราช ในการระดมทุนเพื่อทำนุบำรุงพระศาสนา คือ การสร้างโบสถ์วัดเขาพระทอง ซึ่งเป็นวัดเก่าแก่อายุกว่า 800 ปี รุ่นหลังการก่อสร้างองค์พระบรมธาตุเจดีย์ไม่นานนัก แต่ยังไม่มีโบสถ์ ก็ขอให้ชาวพุทธได้ร่วมกันสมทบทุนในการสร้างโบสถ์วัดเขาพระทองให้แล้วเสร็จ เพื่อสืบทอดอายุพระพุทธศาสนาต่อไป

ด้านพระมหาอารยนันท์ อานันโท กล่าวว่า ทางคณะพุทธบริษัทวัดเขาพระทอง ได้พยายามจัดกิจกรรมอย่างต่อเนื่องเพื่อระดมทุนกองทุนเสบียงบุญสร้างโบสถ์วัดเขาพระทองมาตั้งแต่ปี 2564 เริ่มจากการเดินธุดงค์ธรรมยาตรา 810.4 กิโลเมตร จากวัดพระแก้ว กรุงเทพฯ มายังวัดเขาพระทอง ใช้เวลา 33 วัน และกิจกรรมอื่นๆ อย่างต่อเนื่อง ทำให้การก่อสร้างโบสถ์วัดเขาพระทองรุดหน้าไปได้ประมาณ 60-70% ใช้งบประมาณไปแล้วเกือบ 10 ล้านบาท แต่ยังไม่แล้วเสร็จ จึงได้ปรึกษากับคุณโยมไพฑูรย์ อินทศิลา ผู้สื่อข่าวอาวุโส ประธานกิตติมศักดิ์จัดหาทุนสร้างโบสถ์วัดเขาพระทอง นายภัทรศักดิ์ วรรณแสง กรรมการ ป.ป.ช. ประธานกิตติมศักดิ์คณะกรรมการวัดเขาพระทอง คุณโยมบิณฑ์-เอกพันธ์ บันลือฤทธิ์ คู่แฝดดารานักบุญ คุณโยม ดร.รัตนา สมสกุลรุ่งเรือง มูลนิธิร่วมกตัญญู และผู้ใจบุญทั้งทหารตำรวจพลเรือน ที่ช่วยเหลือวัดเขาพระทองมาโดยตลอด จนมีมติการกำหนดร่วมเป็นเจ้าภาพทอดกฐินสามัคคีประจำปี 2567 ในวันที่ 23 ต.ค. 2567 และจะมีการจัดสร้างเหรียญพังพระกาฬ ทหารเอกพระเจ้าศรีธรรมโศกราช มีกำหนดประกอบพิธีบวงสรวงพุทธาภิเษกในวันที่ 19 ต.ค. 2567 ณ วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหารและศาลหลักเมืองนครศรีธรรมราช เพื่อนำเหรียญพังพระกาฬมาแจกจ่ายให้ผู้มีอุปการะคุณที่ร่วมบุญทอดกฐินสามัคคีวัดเขาพระทอง ในวันที่ 23 ต.ค. 2567 และเปิดโอกาสให้ผู้มีจิตศรัทธาเช่าบูชา เพื่อระดมปัจจัยมาสมทบทุนกองทุนระเบียงบุญสร้างโบสถ์วัดเขาพระทองให้แล้วเสร็จตามวัตถุประสงค์ต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากได้รับมอบถวายระฆัง 5 ใบ จากพระธรรมวชิรากรแล้ว พระมหาอารยนันต์ อานันโท ได้นำระฆังใส่ย่ามพระ จากนั้นจึงเดินไปยังลานทราย นั่งคุกเข่า พนมมือสักการะองค์พระบรมธาตุ บนบาน และขออนุญาตนำระฆังทั้ง 5 ใบ ไปใช้เพื่อประโยชน์ในการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาตามวัตถุประสงค์ต่อไป ทำให้บรรดาผู้คนและนักท่องเที่ยวที่เดินทางมากราบไหว้วัดพระมหาธาตุฯ จำนวนมาก ได้เข้ามาสอบถามรายละเอียดเรื่องราว ก่อนที่เหล่าคอหวยและนักแสวงหาตัวเลข ได้นำไปตีเป็นเลขเด็ด 3, 4, 5 นำไปหาซื้อลอตเตอรี่งวดวันที่ 1 ก.ย. 67 ที่มีจำหน่ายทั้งภายในวัดนอกวัด จนเลข 345 และเลขที่สลับตัวเลขกัน หมดเกลี้ยงแผงไปในพริบตา.