หน่วยงานปราบปรามอาชญากรรมแห่งชาติของสหราชอาณาจักร (National Crime Agency: NCA) แจ้งเตือนนักท่องเที่ยวที่เดินทางจากไทย แคนาดา และสหรัฐ ว่าการลักลอบนำกัญชาเข้าสหราชอาณาจักรมีบทลงโทษจำคุก หลังมีสถิติการลักลอบขนกัญชา จากประเทศต้นทางทั้งสามแห่งเพิ่มสูงขึ้น
นับตั้งแต่ต้นปีนี้ จนถึงวันที่ 12 ส.ค. ที่ผ่านมา ทางการสหราชอาณาจักรจับกุม ผู้ที่ลักลอบนำเข้ากัญชามาทางเครื่องบินโดยสารแล้ว 378 คน และตรวจยึดกัญชาปริมาณถึง 15 ตัน มากกว่าจำนวนในปี 2566 ถึงสามเท่า ซึ่งมีการตรวจยึดกัญชาได้ 5 ตัน และจับกุมผู้คน 136 คน และมากกว่าปี 2565 ที่ตรวจยึดได้เพียง 2 ตัน
ในปี 2566 มีผู้ที่ถูกจับกุม 71 คน เดินทางมาจากท่าอากาศยานในสหรัฐ 24 คน ซึ่งเดินทางมาจากไทย และ 24 คนเดินทางมาจากแคนาดา
ในปี 2567 กว่าครึ่งของการจับกุมเป็นกัญชาที่มาจากไทยเป็นจำนวนอย่างน้อย 184 กรณี กัญชาจากแคนาดาอย่างน้อย 75 กรณี และกัญชาจากอเมริกาอย่างน้อย 47 กรณี
ทั้งนี้ ผู้ลักลอบขนกัญชาหลายคนได้รับคำแนะนำจากผู้ชักชวน ว่าหากถูกจับได้จะแค่ถูกปรับเท่านั้น ทว่า การลักลอบนำเข้ากัญชามายังสหราชอาณาจักร มีบทลงโทษจำคุกสูงสุดถึง 14 ปี ส่วนใหญ่สามารถจับกุมกัญชาปริมาณ 15 ถึง 40 กิโลกรัม จากที่ผู้โดยสารซุกซ่อนในกระเป๋าสัมภาระ ซึ่งโหลดไว้ใต้ท้องเครื่อง
หนึ่งในการตรวจค้นจับกุมครั้งใหญ่สุดที่ท่าอากาศยานแมนเชสเตอร์ คือ กรณีของ นายเฟอร์นานโด มายานส์ ฟัสเตอร์ ชายสัญชาติสเปน อายุ 51 ปี ผู้ถูกจับกุม เมื่อเดือน พ.ค. ที่ผ่านมา ฐานพยายามลักลอบนำกัญชาน้ำหนัก 158 กิโลกรัม ซุกซ่อนมาในกระเป๋า 8 ใบ เดินทางจากนครลอสแอนเจลิสของสหรัฐ และศาลพิพากษาเมื่อเดือน ก.ค. ที่ผ่านมา ให้ มายานส์ ฟัสเตอร์ รับโทษจำคุกเป็นเวลา 3 ปี 4 เดือน
เมื่อวันที่ 9 ส.ค. ผู้โดยสารสัญชาติสหราชอาณาจักร 11 คน คน ถูกจับกุมที่ท่านอากาศยานเมืองเบอร์มิงแฮม เหตุพยายามลักลอบนำเข้ากัญชาน้ำหนัก 510 กิโลกรัม มาในกระเป๋าเดินทาง 28 ใบ
ก่อนเดินทางถึงสหราชอาณาจักร ผู้โดยสารกลุ่มนี้เดินทางจากไทย และเปลี่ยนเครื่องบินที่ท่าอากาศยานนานาชาติปารีส-ชาร์ล เดอ โกล ทั้งหมดได้รับการประกันตัวจนถึงวันที่ 9 พ.ย. นี้ และรอการสืบสวนจากหน่วยงานปราบปรามอาชญากรรมแห่งชาติ ซึ่งเชื่อว่าผู้ถูกจับกุมทุกคนมีความเชื่อมโยงกัน
ในบางกรณี มีการตรวจพบเครื่องติดตามอิเล็กทรอนิกส์ที่ลักลอบนำเข้ามาพร้อมกับกัญชา เชื่อกันว่าองค์กรอาชญากรรมได้ซุกซ่อนไว้เพื่อติดตามยาเสพติดที่ขนมา
ผู้เชี่ยวชาญจากหน่วยงานปราบปรามอาชญากรรมแห่งชาติของสหราชอาณาจักร กล่าวว่า แนวโน้มการลักลอบนำเข้ามีมากขึ้น จากการที่องค์กรอาชญากรรมเข้าถึงกัญชา ซึ่งปลูกอย่างถูกกฎหมายในต่างประเทศ และจัดหาผู้ลักลอบนำเข้ามายังสหราชอาณาจักร ที่จะทำกำไรให้มากกว่าการปลูกเอง
นายเจมส์ บับเบจ อธิบดีกองการปราบปรามภัยคุกคามจากยาเสพติด หน่วยงานปราบปรามอาชญากรรมแห่งชาติของสหราชอาณาจักร ให้ความเห็นว่า
“ในบางกรณี ผู้ลักลอบนำเข้ากัญชาอาจไม่ทราบถึงบทลงโทษ แต่ส่วนใหญ่ ผู้ลักลอบกำลังดำเนินการเพื่อผลประโยชน์ขององค์กรอาชญากรรม โดยจะรู้ตัวหรือไม่ก็ตาม สหราชอาณาจักรขอให้ผู้ที่ได้รับการติดต่อเพื่อลักลอบนำเข้ากัญชา คิดอย่างรอบคอบถึงผลที่อาจจะเกิดขึ้นจากการกระทำ รวมทั้งความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นด้วย”.
ขอขอบคุณ สถานเอกอัครราชทูตสหราชอาณาจักรประจำประเทศไทย
เครดิตภาพ : GETTY IMAGES