สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ เมื่อวันที่ 25 ส.ค. ว่าคณะทำงานแห่งชาติเกี่ยวกับทะเลฟิลิปปินส์ตะวันตก ซึ่งเป็นชื่อที่ฟิลิปปินส์ใช้เรียกทะเลจีนใต้ ออกแถลงการณ์ว่า เรือลาดตระเวนอย่างน้อย 8 ลำของหน่วยยามฝั่งจีน สะกดรอยตามเรือลาดตระเวนของสำนักงานประมงและทรัพยากรทางน้ำแห่งชาติ ( บีเอฟเออาร์ ) ใกล้กับแนวปะการังซาบินา ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของหมู่เกาะสแปรตลีย์ ในทะเลจีนใต้ เมื่อช่วงเช้าของวันอาทิตย์ตามเวลาท้องถิ่น


รายงานของฟิลิปปินส์ระบุว่า เรือของจีนเป็นฝ่ายพุ่งเข้ามาชน และมีการฉีดนำแรงดันสูงเข้าใส่เรือของฟิลิปปินส์ด้วย


ด้านสำนักงานยามฝั่งจีนออกแถลงการณ์ว่า ใช้ “มาตรการควบคุม” ต่อเรือของฟิลิปปินส์ ระหว่างการเผชิญหน้ากัน ใกล้กับแนวปะการังเซียนบิน ซึ่งเป็นชื่อที่จีนใช้เรียกแนวะการังซาบินา และช่วยเหลือลูกเรือของฟิลิปปินส์ ซึ่งพลัดตกจากเรือ ระหว่างการเผชิญหน้าและปะทะกันครั้งนี้ด้วย โดยไม่มีการระบุจำนวนอย่างชัดเจน ว่าช่วยเหลือลูกเรือของฟิลิปปินส์กี่คน

เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น หลังฟิลิปปินส์กล่าวว่า เครื่องบินขับไล่ของจีนลำหนึ่งบินเข้ามาใกล้ และ “คุกคาม” ด้วยการปล่อยพลุแฟลร์เพื่อขัดขวางเส้นทางการบิน เครื่องบินของบีเอฟเออาร์ ซึ่งกำลังลาดตระเวนใกล้กับแนวสันดอนสการ์โบโรห์ ในทะเลจีนใต้ เมื่อวันที่ 19 ส.ค. ที่ผ่านมา


นอกจากนั้น เหตุการณ์เดียวกันนี้เกิดขึ้น ระหว่างที่เครื่องบินของฟิลิปปินส์กำลังลาดตระเวนเหนือแนวปะการังซูบี เมื่อวันที่ 22 ส.ค. ที่ผ่านมาด้วย ทั้งที่เครื่องบินของฟิลิปปินส์กำลังลอยลำอยู่เหนือทะเล ที่ถือเป็นเขตเศรษฐกิจจำเพาะ และทะเลอาณาเขต


ขณะที่กระทรวงกลาโหมจีนออกแถลงการณ์ ว่าเครื่องบินตรวจการณ์ของฟิลิปปินส์เป็นฝ่ายละเมิดทะเลอาณาเขตของจีน เหนือแนวปะการังจู่ปี้ ซึ่งเป็นชื่อที่จีนใช้เรียกแนวปะการังซูบี เมื่อวันที่ 22 ส.ค. ที่ผ่านมา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของรัฐบาลปักกิ่ง “ตอบโต้ตามความเหมาะสม” แต่ไม่มีการเอ่ยถึงเหตุการณ์เมื่อวันที่ 19 ส.ค. แต่อย่างใด.

เครดิตภาพ : AFP