กลายเป็นสิ่งที่สังคมไม่ว่าอะไร การที่ผู้บังคับใช้กฎหมายหากินกับคดีต่าง ๆ ก็ไม่ผิด ถ้าไม่ขัดผลประโยชน์เพื่อน ๆ ก็อาจจะผิดเฉพาะบางคนที่ออกมาแฉเพื่อนรายวัน จนถูกปลดจากราชการ ทั้งนี้ สังคมไทยยังถกเถียงกันเรื่องมาตรฐานจริยธรรม แล้วระดับนานาชาติเขาวัดกันอย่างไร?
ในมาตรฐานจริยธรรมระดับสากล นอกจากเรื่อง ความซื่อสัตย์สุจริต (Integrity) เป็นสิ่งสำคัญที่สุดแล้ว ที่จะลดเพดานหรือละเลยไม่ได้ในทุกการตัดสินใจและการกระทำแล้ว ยังมีเรื่องสำคัญอื่น ๆ ที่ละเลยไม่ได้เช่นกัน ได้แก่ การเคารพต่อสิทธิมนุษยชน (Universal Human Right) ความรับผิดชอบต่อสังคม (Accountability & Social Responsibility) ความโปร่งใส ตรวจสอบได้ (Transparency) และ ความเท่าเทียมเป็นธรรม (Fairness) ซึ่งแต่ละหมวดมีข้อกำหนดในรายละเอียดเป็นแนวทางไว้ แต่ที่จริงแล้วถือเป็นสามัญสำนึก (Common Sense) ของสามัญชนทั่วไป โดยในแต่ละประเทศนั้น จะให้นํ้าหนักในมาตรฐานจริยธรรมต่างกันไป ดังต่อไปนี้
1.สหรัฐอเมริกา เน้นเรื่องความโปร่งใส และสาธารณะตรวจสอบได้เสมอ ด้วยขบวนการตามระบอบประชาธิปไตย
2.สวีเดน เน้นความซื่อสัตย์สุจริต เอาจริงเรื่องคอร์รัปชัน ทุกการตัดสินใจต้องเปิดเผยให้สังคมรับรู้และมีส่วนร่วม
3.นิวซีแลนด์ ผู้นำต้องปฏิบัติตามมาตรฐานการบริการสังคม ที่เน้นผลประโยชน์ส่วนรวมและความโปร่งใส
4.แคนาดา มีมาตรฐานจริยธรรมและระเบียบปฏิบัติของบุคลากรของรัฐ ที่ผู้นำ นักการเมือง ข้าราชการต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด เพื่อให้ประชาชนเชื่อมั่นมีศรัทธาต่อการทำงานของรัฐ รวมถึงคุ้มค่ากับภาษีที่ได้จ่ายไป
5.สิงคโปร์ มีหน่วยงานกำกับดูแลจริยธรรม และการต่อต้านคอร์รัปชัน ซึ่งผู้นำและหัวหน้าหน่วยงานต่าง ๆ ต้องแสดงให้เป็นตัวอย่างต่อสาธารณะอย่างชัดเจน ใครทำความผิดจะมีบทลงโทษร้ายแรง
ทั้งนี้ อันที่จริงไทยเรามีเกือบทุกอย่างที่นานาชาติมี เช่น มีองค์กรอิสระมากมายทำงานเรื่องนี้ แต่ก็ไม่เอาจริงเอาจัง เพราะเกรงใจกัน ดังนั้นน่าจะเป็นโอกาสดีที่รัฐบาลชุดใหม่ จะให้ความสำคัญเร่งด่วนกับ “มาตรฐานจริยธรรม” นี้ แถลงนโยบายให้ดัง ๆ ปัดฝุ่นทำรายละเอียดให้ชัดเจน เพื่อกู้วิกฤติความเชื่อมั่น ปรับปรุงระเบียบข้อบังคับต่าง ๆ ปรับโครงสร้าง และคัดเลือกผู้นำหน่วยงานกำกับดูแลที่ประชาชนไว้ใจ รวมถึงเร่งรัดคดีที่เกี่ยวกับความซื่อสัตย์สุจริต คดีคอร์รัปชันที่ค้างคา กับรีบลงโทษคนผิดอย่าให้ลอยนวล ทำให้ได้ตามมาตรฐานสากล และที่สำคัญท่านนายกรัฐมนตรีคนใหม่ต้องทำตัวเป็นตัวอย่างให้เป็นที่ประจักษ์ต่อสังคมจึงจะเทียบชั้นกับผู้นำโลกได้.