เมื่อวันที่ 20 ส.ค. นายธีร์ ภวังคนันท์ รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เปิดเผยว่า ตามที่ พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รมว.ศึกษาธิการ นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล รมช.ศึกษาธิการ และว่าที่ร้อยตรี ธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) มีความห่วงใยและได้สั่งการให้เร่งตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีเด็กนักเรียนชั้น ม.2 ของโรงเรียนแห่งหนึ่งในพื้นที่จังหวัดแพร่ ถูกนักเรียนต่างโรงเรียนทำร้ายร่างกายและรีดไถเงินนั้น ตนพร้อมด้วยทีมงานศูนย์บริหารความสุขและความปลอดภัย สพฐ. ได้ติดตามสถานการณ์ดังกล่าวนับแต่วันที่เกิดเหตุ ได้สั่งการให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาแพร่ ต้นสังกัดโรงเรียนของนักเรียนที่ถูกทำร้ายร่างกาย ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นโดยด่วนแล้ว ทั้งนี้ พบว่าทางโรงเรียนได้มีการสืบสวนเบื้องต้นจากนักเรียนและพยานบุคคล ปลอบขวัญและให้กำลังใจนักเรียน และพานักเรียนไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลแพร่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งเบื้องต้นทางแพทย์วินิจฉัยว่านักเรียนปลอดภัย และเมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2567 ที่ผ่านมา ได้ประสานพานักเรียนเข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ สถานีตำรวจภูธรเมืองแพร่ เพื่อสืบสวนและดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดต่อไป

นอกจากนี้ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาแพร่ ได้ติดตามการตรวจสอบข้อเท็จจริงและหาสาเหตุการเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวอย่างใกล้ชิด ประสานผู้ปกครองเพื่อร่วมรับทราบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมกำชับผู้บริหาร ครูและบุคลากรทางการศึกษาของโรงเรียน ให้เฝ้าระวังความปลอดภัยของนักเรียน โดยดำเนินการตามมาตรการและแผนเผชิญเหตุด้านความปลอดภัยของสถานศึกษาอย่างเข้มงวดและเคร่งครัด เพื่อสร้างความปลอดภัยให้กับนักเรียนทั้งขณะที่อยู่ในโรงเรียนและนอกโรงเรียน พร้อมทั้งให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายกิจกรรมนักเรียนและนักจิตวิทยาประจำเขตพื้นที่การศึกษาเข้าพูดคุยและดูแลเยียวยาจิตใจของนักเรียนผู้ถูกทำร้าย และได้ประสานสหวิชาชีพ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อติดตามในเรื่องคดีความ และกำชับโรงเรียนในสังกัดทุกแห่งทั่วประเทศ เรื่องมาตรการความปลอดภัยทั้งในและนอกสถานศึกษา หากเกิดเหตุการณ์ในลักษณะเดียวกันอีก ให้รายงานสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาและรายงาน สพฐ. ทราบทันที ตลอด 24 ชม.

นายธีร์ กล่าวเพิ่มเติมว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ สพฐ. ไม่ได้นิ่งนอนใจ และจะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยกำชับเขตพื้นที่ฯ หากเกิดเหตุการณ์ในลักษณะเช่นนี้ ขอให้ทำความเข้าใจกับสถานศึกษาเน้นการสื่อสารสร้างความเข้าใจ ให้ความสำคัญกับการดูแลเยียวยานักเรียนเป็นอันดับแรก พร้อมร่วมหารือกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องในการแก้ไขปัญหา และดำเนินการตามมาตรการป้องกันเหตุการณ์ทะเลาะวิวาทและการใช้ความรุนแรงภายในโรงเรียน ตามหลัก 3 ป (ป้องกัน ปลูกฝัง ปราบปราม) เพื่อสร้างความปลอดภัยให้กับนักเรียนในทุกพื้นที่ ส่วนการดำเนินคดีระหว่างทั้งสองฝ่ายนั้นให้เป็นไปตามกระบวนการทางกฎหมาย โดยคำนึงถึงสิทธิของเยาวชนทั้งในด้านสิทธิมนุษยชนและโอกาสทางการศึกษา เพื่อให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย

“ทั้งนี้ กระทรวงศึกษาธิการ และ สพฐ. ขอวิงวอนผู้ใช้โซเชียลมีเดียทุกช่องทาง งดเผยแพร่ภาพความรุนแรงต่อเด็กในทุกกรณี และนำออกจากสื่อต่างๆ เพื่อป้องกันผลกระทบต่อสุขภาพจิตของเด็ก รวมถึงป้องกันพฤติกรรมเลียนแบบ และหลีกเลี่ยงการกระทำที่ขัดต่อกฎหมาย หากพบเหตุการณ์ในลักษณะที่ไม่ปลอดภัยกับเด็ก ขอให้แจ้งเหตุมายัง สายด่วน ศธ. 1579 ได้ตลอดเวลา หรือแจ้ง สพฐ. ที่ช่องทางการรับเรื่องร้องทุกข์ ศูนย์บริหารความสุขและความปลอดภัย สพฐ. โทร. 0 2123 8789 เพื่อดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงและให้การช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนต่อไป” รองเลขาธิการ กพฐ. กล่าว