เมื่อวันที่ 17 ส.ค. นายเทพไท เสนพงศ์ อดีตสส.นครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า เมื่อมีประกาศราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่พระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษ ในวโรกาสวาระพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ วันที่ 28 กรกฎาคม 2567 นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณ ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้พระราชทานอภัยโทษแก่ผู้ต้องราชทัณฑ์ เพื่อให้โอกาสแก่บุคคลเหล่านั้น ได้กลับประพฤติตนเป็นพลเมืองดี อันเป็นคุณประโยชน์แก่ประเทศชาติสืบไป และการมีพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษในครั้งนี้ ทำให้นายทักษิณ ชินวัตร นักโทษเด็ดขาด และอยู่ระหว่างการพักโทษ ได้รับอานิสงส์จากพระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ด้วย โดยเนื้อหาของพระราชกฤษฎีกา มาตรา 6 ระบุว่า ผู้ต้องโทษดังต่อไปนี้ให้ได้รับพระราชทานอภัยโทษปล่อยตัวไป (1)ผู้ต้องกักขัง (2) ผู้ทำงานบริการสังคมหรือทำงานสาธารณประโยชน์แทนค่าปรับ (3) ผู้ได้รับการปล่อยตัวคุมประพฤติ
นายเทพไท กล่าวอีกว่า เมื่อนายทักษิณเป็นผู้ได้รับการปล่อยตัวคุมประพฤติ หรือการพักโทษ ตามมาตรา 6 (3) ทำให้นายทักษิณได้รับการพ้นโทษในทันที ไม่ต้องรอให้ถึงวันที่ 31 ส.ค.2567 ตามที่กรมราชทัณฑ์ประกาศไว้ ทั้งที่ก่อนหน้านี้กรมราชทัณฑ์เคยยืนยันว่าพระราชกฤษฎีกาอภัยโทษเป็นการทั่วไป นายทักษิณจะไม่ได้รับประโยชน์พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ แต่ในข้อเท็จจริง นายทักษิณได้รับประโยชน์จากพระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ ทำให้พ้นโทษก่อนกำหนด และในวันที่ 22 ส.ค.นี้ การที่นายทักษิณได้รับเชิญไปเป็นวิทยากร บรรยายแสดงวิสัยทัศน์เกี่ยวกับทิศทางการเมืองและการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศนั้น ก็สามารถขึ้นเวทีได้ในฐานะคนทั่วไป ไม่ใช่นักโทษผู้ได้รับการพักโทษอีกแล้ว
“และต่อไปคงได้เป็นที่ปรึกษาให้กับ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ลูกสาวคนโปรด ที่กำลังจะเข้ารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 31 ตามเงื่อนไขกฎหมายที่เปิดโอกาสให้ทำได้ต่อไป ขอแสดงความยินดีกับคุณทักษิณ และเพื่อนนักโทษทุกคน ที่ได้รับพระราชทานอภัยโทษในครั้งนี้ด้วย”นายเทพไท กล่าว