การจรดปากกาของนายกรัฐมนตรีลงนามในคำสั่งแต่งตั้งบุคคลมาทำหน้าที่เสมือนเป็นกุนซือส่วนตัว ในตำแหน่งที่เรียกว่า “ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี” มีความสำคัญและถูกจับตาเสมอมา แม้ไม่ใช่หนึ่งในตำแหน่งของข้าราชการการเมืองที่รับเงินเดือนจากราชการก็ตาม
แต่การที่ “นายกฯ แพทองธาร ชินวัตร” แต่งตั้งกุนซือดังกล่าวรอบล่าสุดเรียกเสียงฮือฮามาก เพราะเป็นชื่อของ “เต้น – ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ” อดีตรมช.เกษตรและสหกรณ์ และอดีตรมช.พาณิชย์ ที่สำคัญ ยังเป็นอดีตแกนนำ “คนเสื้อแดง” มาตั้งแต่ช่วงก่อตั้งกลุ่ม “แนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการ (นปก.)” เมื่อปี 2550 จนกระทั่งเปลี่ยนชื่อมาเป็น “แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.)”
สาเหตุที่เรื่องนี้ถูกจับจ้องและถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างมาก เพราะเมื่อครั้งที่ “เต้น – ณัฐวุฒิ” ได้รับบทบาทจากพรรคเพื่อไทยให้ทำหน้าที่ “ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย” ในช่วงการหาเสียงการเลือกตั้งใหญ่เมื่อปี 2566 เคยเดินสายหาเสียงว่า “ไม่เอาลุง” แต่เมื่อจบศึกเลือกตั้ง และการเมืองพลิกผัน พรรคเพื่อไทยได้จัดตั้งรัฐบาลโดยมีพรรคการเมืองที่มี “ลุง” คือพรรคพลังประชารัฐ และพรรครวมไทยสร้างชาติ ทำให้ “ณัฐวุฒิ” ขอยุติบทบาทนี้ ไปขายข้าวแกง ไม่ไปยุ่งเกี่ยวอีก
ทำให้การที่ชื่อของอดีตแกนนำคนเสื้อแดงผู้นี้เข้าเป็นที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรีในรัฐบาลที่มีพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำ และยังมีพรรครวมไทยสร้างชาติร่วมรัฐนาวาด้วยนั้น จึงมองถูกว่าเป็นการกลืนน้ำลาย กลืนเลือด ซึ่งเจ้าตัวยอมรับความเป็นจริงในเรื่องนี้ พร้อมบอกว่าเป็นเพราะผู้ใหญ่ในพรรคเพื่อไทยหลายๆคนอยากให้ตนกลับมาช่วยงาน “นายกฯแพทองธาร” ช่วยงานรัฐบาล รับมือสถานการณ์ต่างๆ เงื่อนไขทางการเมืองก็มีมาก ทั้งเกิดคลื่นใต้น้ำในพรรคร่วมรัฐบาลอยู่ตลอด และพรรคฝ่ายค้านก็ยังเป็นคู่แข่งขันสำคัญที่ประมาทไม่ได้ อีกทั้งยังมีคู่ต่อสู้อื่นๆทางการเมือง
ขณะที่เสียงสะท้อนจากเหล่าอดีตสหายเสื้อแดงออกมาถล่มแบบจัดหนัก ทั้ง “นพ.เหวง โตจิราการ” ที่โพสต์เฟซบุ๊กว่า “พรรคการเมืองตระบัดสัตย์ นักการเมืองตระบัดสัตย์ คนตระบัดสัตย์ ประชาชนหันหลังให้พวกคุณแน่นอน”
แต่ที่เสียงดังรัวๆกว่าใคร ก็คือคนที่เคยล่มหัวจมท้ายมาด้วยในมวลชนเสื้อแดง อย่าง “ตู่ – จตุพร พรหมพันธุ์” อดีตแกนนำนปช. เผยว่า นายณัฐวุฒิเคยเสนอนโยบายให้พรรคเพื่อไทยทำกฎหมายเปิดทางให้ผู้ที่บาดเจ็บหรือญาติผู้เสียชีวิตจากการสลายการชุมนุม สามารถร้องตรงกับศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง แต่พรรคเพื่อไทยทิ้งกฎหมายนี้ก่อนที่ “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกฯ จะออกจากรพ.ตำรวจแค่ 1 วัน ถือเป็นการตระบัดสัตย์ และวันนี้ “ณัฐวุฒิ”กลับไปอยู่ใจกลางของรัฐบาล
แม้ต่อมา มีชาวเน็ตบางรายมาทวงถาม “จตุพร” ถึงเรื่องเงินบริจาค 42 ล้านบาท ช่วงคนเสื้อแดงชุมนุมว่าหายไปไหน เจ้าตัวได้ทีเลยจัดใส่ “ณัฐวุฒิ”อีกดอก โดยบอกว่าให้ไปถาม“ที่ปรึกษาฯ ณัฐวุฒิ” ที่เป็นคนดูแลเงินในช่วงนั้น ตามที่ตกลงกันในหมู่แกนนำ 3 เกลอในขณะนั้น
แบบนี้ไม่รู้ว่าคุ้มค่าหรือไม่กับการแต่งตั้งท่านกุนซือป้ายแดงผู้นี้ เพราะแทนที่จะมาช่วยกอบกู้สถานการณ์ อาจกลายเป็นสายล่อไฟ เพิ่มโจทย์ร้อนเขย่าขวัญรัฐบาลไม่รู้จบ.