เมื่อวันที่ 15 ส.ค. เวลา 14.00 น. นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย มอบหมายให้ รศ.วรวรรณ โรจนไพบูลย์ ที่ปรึกษาปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุมรับฟังรายงานความก้าวหน้าการดำเนินโครงการพุทธอารยเกษตร วัดระฆัง-กระทรวงมหาดไทย ณ บริเวณคลอง 15 ตำบลคลองใหญ่ อำเภอองครักษ์ จังหวัดนครนายก โดยมีนายสมพร กาญจน์นิรันดร์ รองอธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง นายสมาน พั่วโพธิ์ ผู้ตรวจราชการกรมการพัฒนาชุมชน นางสาวอรอุมา วรแสน นักวิเคราะห์นโยบายและแผนชำนาญการพิเศษ รักษาการผู้อำนวยการกลุ่มยุทธศาสตร์การเปลี่ยนแปลง กระทรวงมหาดไทย นายอุดม จิตตวงค์ ผู้อำนวยการกองผังเมืองเฉพาะ กรมโยธาธิการและผังเมือง ร่วมประชุม ณ ห้องประชุม War room ชั้น 2 อาคารศาลาว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมประชุมผ่านระบบออนไลน์ (Zoom Cloud Meeting) โดยมีผู้แทนหน่วยงานประจำจังหวัดนครนายก อาทิ นายทองคูณ บุญศร พัฒนาการจังหวัดนครนายก นายธนารักษ์ วรปริชาพันธุ์ โยธาธิการและผังเมืองจังหวัดนครนายก นายแสงชัย ธนพาณิชย์วัฒนา เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดนครนายก และเจ้าหน้าที่จากสำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดนครนายก สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดนครนายก สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดนครนายก สำนักธนารักษ์พื้นที่นครนายก โครงการชลประทาน โครงการส่งนำและบำรุงรักษานครนายก เข้าร่วมการประชุม
รศ.วรวรรณ โรจนไพบูลย์ ที่ปรึกษาปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือโครงการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตแบบอารยเกษตร ตามแนวพระราชดำริ เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ระหว่างกระทรวงมหาดไทย วัดระฆังโฆสิตาราม วรมหาวิหาร สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง และจังหวัดนครนายก ปัจจุบันได้มีการเปลี่ยนชื่อโครงการดังกล่าวเป็น “โครงการพุทธอารยเกษตร วัดระฆัง-กระทรวงมหาดไทย ที่คลอง 15 จังหวัดนครนายก”
“โครงการพุทธอารยเกษตรวัดระฆัง-กระทรวงมหาดไทย ที่คลอง 15 จังหวัดนครนายก เป็น 1 ใน 6 โครงการเฉลิมพระเกียรติของกระทรวงมหาดไทย ซึ่งเป็นเจตนารมณ์ร่วมกันที่จะออกแบบ พัฒนา วางแผนและบริหารจัดการการใช้ประโยชน์พื้นที่ ในที่ดินของวัดระฆังโฆสิตาราม วรมหาวิหาร รวมจำนวน 150 ไร่ ที่ตั้งอยู่ที่ตำบลคลองใหญ่ อำเภอองครักษ์ จังหวัดนครนายก เพื่อพัฒนาให้เป็นพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตแบบอารยเกษตร ตามแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยได้รับเมตตาจากพระเดชพระคุณ พระเทพประสิทธิคุณ ที่ปรึกษาเจ้าคณะกรุงเทพมหานคร เจ้าอาวาสวัดระฆังโฆสิตาราม วรมหาวิหาร มอบพื้นที่ให้กระทรวงมหาดไทยดำเนินการ โดยพระครูสุภัทรธรรมโฆษิต (พระครูต้น) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดระฆังโฆสิตาราม วรมหาวิหาร เป็นผู้ดูแลการดำเนินโครงการพื้นที่นี้ โดยมีนายสุภกิณห์ แวงชิน ผู้ว่าราชการจังหวัดนครนายก ร่วมขับเคลื่อนในการดำเนินโครงการ” รศ.วรวรรณ กล่าว
นายสมพร กาญจน์นิรันดร์ รองอธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง กล่าวว่า กระทรวงมหาดไทย ได้น้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงและทฤษฎีใหม่ประยุกต์สู่ “โคก หนอง นา” และอารยเกษตร ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยการนำที่ดินมาดำเนินโครงการพัฒนาแหล่งน้ำ (แก้มลิง) แบบอารยเกษตร ขับเคลื่อนตามพระราชปณิธาน “สืบสาน รักษา ต่อยอด” เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 และเป็นพื้นที่ศึกษาเรียนรู้ในการน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงทฤษฎีใหม่ ซึ่งกระทรวงมหาดไทย ได้มอบหมายให้กรมโยธาธิการและผังเมือง เป็นผู้ออกแบบผังแม่บทแนวคิดการพัฒนาพื้นที่พุทธอารยเกษตร โครงการพุทธอารยเกษตรวัดระฆัง- กระทรวงมหาดไทย ที่คลอง 15 จังหวัดนครนายก รวมทั้งสิ้น 150 ไร่ แบ่งออกเป็น 4 โซน ได้แก่ 1) Zone A “ต่อยอด” จำนวน 32 ไร่ เป็นพื้นที่ส่วนนันทนาการ และปฏิบัติการชุมชน 2) Zone B “รักษา” จำนวน 30 ไร่ เป็นพื้นที่พุทธอารยเกษตรเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน (DHAMMAJATII) 3) Zone C จำนวน 28 ไร่ เป็นพื้นที่ศูนย์เรียนรู้การพัฒนาคุณภาพชีวิต ตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุกต์สู่พุทธอารยเกษตร และ 4) Zone D จำนวน 60 ไร่ เป็นพื้นที่ชุมชนสัมมาชีพตามแนวพุทธอารยวิถี (Thamma Eco-Village)
“สำหรับความก้าวหน้าการดำเนินการปรับสภาพพื้นที่ กระทรวงมหาดไทย โดยกรมโยธาธิการและผังเมือง ได้ดำเนินการไปแล้วจำนวน 18 วัน เริ่มตั้งแต่วันที่ 26 กรกฎาคม 2567 ปัจจุบันมีความคืบหน้าเป็นไปตามแผนแล้ว ร้อยละ 26 ประกอบด้วย การขุดลอกคูคลองเดิม หนองสระน้ำบัว แปลงนาแปลงเกษตรสาธิตและปรับหน้าดิน และคลองไส้ไก่ พร้อมทำฝายดิน ถนน ลานจอดรถ ลานรวมพล ฐานเรียนรู้ ลานปักกลด ทางเดินเท้า แปลงไม้ดอก โคก คัน นา และปรับปรุงพื้นที่ โดยโครงการนี้มีกำหนดแล้วเสร็จภายในวันที่ 30 กันยายน 2567 นี้ นอกจากนี้ กรมโยธาธิการและผังเมือง มีแผนจัดกิจกรรม “Kick Off” ในวันที่ 16 กันยายน 2567 ซึ่งตรงกับ “วันโอโซนโลก” (World Ozone Day) โดยมีกิจกรรม อาทิ การทอดผ้าป่าต้นไม้ ฟาง ปุ๋ยคอก และกิจกรรม “เอามื้อสามัคคี” ไม่ว่าจะเป็นการเก็บขยะ ปลูกต้นไม้ ซึ่งแผนระยะยาว มีกำหนดจัดกิจกรรมบูรณาการภาคีเครือข่ายเป็นประจำทุกเดือน เพื่อเชิญภาคีเครือข่ายและประชาชนมาร่วมกิจกรรมเอามื้อสามัคคี ในพื้นที่ดำเนินการ ได้แก่ 1) โคกปลูกป่า 3 อย่าง ประโยชน์ 4 อย่าง 2) ตลาดชุมชน 3) สนามเด็กเล่นสร้างปัญญา และจักรยานขาไถ 4) บ่อเก็บน้ำ คลองไส้ไก่ 5) แปลงไม้ดอกไม้ประดับ 6) ลานจอดรถและพื้นที่อเนกประสงค์ 7) สวนสาธารณะ” นายสมพร กล่าวเพิ่มเติม
รศ.วรวรรณ กล่าวในช่วงท้ายว่า เพื่อให้การดำเนินโครงการพุทธอารยเกษตรวัดระฆัง-กระทรวงมหาดไทย ที่คลอง 15 จังหวัดนครนายก เป็นไปตามแผนและระยะเวลาที่กำหนด รวมถึงได้บรรลุวัตถุประสงค์ของการน้อมนำหลักทฤษฎีใหม่ สู่การพัฒนาพื้นที่ตามหลักอารยเกษตร เพื่อให้เป็นพื้นที่แห่งความยั่งยืน เสริมสร้างการพัฒนาคุณภาพชีวิต จึงขอกำชับให้จังหวัดนครนายกเน้นการขับเคลื่อนการบูรณาการร่วมกับภาคีเครือข่าย สร้างการมีส่วนร่วมในทุกระดับ ผ่านกลไก 3 5 7 เพื่อให้เกิดผลสำเร็จที่เป็นรูปธรรม นอกจากนี้ ยังได้ซักซ้อมแผนการจัดกิจกรรม “Kick Off” ร่วมกับกรมโยธาธิการและผังเมือง รวมถึงติดตามการดำเนินโครงการขับเคลื่อนเขตพัฒนาเศรษฐกิจพอเพียง (SEDZ) ด้วยโมเดลเศรษฐกิจใหม่ บนพื้นที่ 858 ไร่ ทุ่งบางกระชา ตำบลบางสมบูรณ์ และตำบลบางลูกเสือ อำเภอองครักษ์ จังหวัดนครนายก โดยสำนักนโยบายและแผน สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย ในฐานะเลขานุการ จะจัดประชุมติดตามความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง อย่างน้อยทุก 2 เดือน เพื่อให้รับทราบถึงปัญหาและอุปสรรคต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น เพื่อแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้ทันท่วงที ทำให้สามารถจัดกิจกรรมได้ตามกำหนด โดยหวังเป็นอย่างยิ่งว่า พื้นที่แห่งนี้จะเป็นต้นแบบในการทำให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืนต่อไปในอนาคต