สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากเมืองเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เมื่อวันที่ 14 ส.ค. ว่า กลไกสืบสวนอิสระในเมียนมา (ไอไอเอ็มเอ็ม) ที่ก่อตั้งโดยคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอสซี) ระบุว่า ในช่วงหกเดือนที่ผ่านมา คาดว่ามีชาวเมียนมามากกว่า 3 ล้านคน ถูกบังคับให้หนีออกจากบ้านของพวกเขา ท่ามกลางความขัดแย้งภายในประเทศ
“เราได้รวบรวมหลักฐานจำนวนมากที่แสดงให้เห็นถึงระดับความโหดร้าย และความไร้มนุษยธรรมทั่วทั้งเมียนมา ซึ่งอาชญากรรมหลายครั่งเกิดขึ้นด้วยเจตนาที่จะลงโทษ และสร้างความหวาดกลัวในหมู่พลเรือน” นายนิโคลัส คุมเจียน หัวหน้าของไอไอเอ็มเอ็ม กล่าว
ในรายงานประจำปีที่ครอบคลุมระหว่างวันที่ 1 ก.ค. 2566 ถึงวันที่ 30 มิ.ย. 2567 ไอไอเอ็มเอ็มระบุว่า ความขัดแย้งในเมียนมา “ทวีความรุนแรงขึ้นอย่างมาก” ในช่วงเวลาดังกล่าว โดยมีรายงานว่าเกิดอาชญากรรมที่โหดร้าย และเกิดขึ้นบ่อยครั้งมากขึ้นทั่วประเทศ
ด้านคณะผู้สืบสวนกล่าวเพิ่มเติมว่า พวกเขารวบรวมหลักฐานสำคัญของอาชญากรรมสงครามที่รุนแรงและโหดร้ายมากขึ้น รวมถึงการโจมตีทางอากาศใส่โรงเรียน, ศาสนสถาน และโรงพยาบาลหลายแห่ง โดยไม่มีเป้าหมายทางทหารที่ชัดเจน ตลอดจนการทำร้ายร่างกายผู้ถูกคุมขัง
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ของไอไอเอ็มเอ็ม ยังดำเนินการตรวจสอบการคุมขังที่ผิดกฎหมาย รวมถึงการควบคุมตัวโดยพลการ และการพิจารณาคดีที่ไม่เป็นธรรมอย่างชัดเจน ต่อผู้ที่ถูกมองว่าเป็น “ฝ่ายตรงข้ามของรัฐบาลทหารเมียนมา” ด้วย.
เครดิตภาพ : AFP