สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากกรุงนิวเดลี ประเทศอินเดีย เมื่อวันที่ 14 ส.ค. ว่า ภัยพิบัติที่เกี่ยวข้องกับสภาพอากาศ มักเกิดขึ้นบ่อยครั้งในช่วงฤดูมรสุม ตั้งแต่เดือน มิ.ย.-ก.ย. แต่ผู้เชี่ยวชาญหลายคนกล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศกำลังทำให้ภัยพิบัติเหล่านี้เกิดบ่อยกว่าเดิม และรุนแรงยิ่งขึ้น

ทั้งนี้ ยอดผู้เสียชีวิตตั้งแต่เดือน มิ.ย. ที่ผ่านมา ในอินเดีย, เนปาล และปากีสถาน อยู่ที่อย่างน้อย 250 ราย, 171 ราย และ 178 ราย ตามลำดับ ตามข้อมูลอย่างเป็นทางการของแต่ละประเทศ

สำหรับอินเดีย ซึ่งเผชิญกับคลื่นความร้อนยาวนานที่สุดเป็นประวัติการณ์ ไม่กี่เดือนก่อนหน้านี้ ผู้สันทัดกรณีด้านสภาพอากาศของรัฐบาลนิวเดลี ระบุว่า พายุฝนรุนแรงซึ่งเข้ามาแทนที่อากาศร้อน ทำให้เกิดอุทกภัยและดินถล่มในวงกว้าง อีกทั้งในสัปดาห์นี้ สำนักงานอุตุนิยมวิทยาแห่งชาติอินเดีย (ไอเอ็มดี) ประกาศเตือนว่าจะมี “ฝนตกหนัก” ในหลายรัฐทางตอนใต้ และทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ

อีกด้านหนึ่ง เนปาลมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 171 ราย นับตั้งแต่ฝนมรสุมเริ่มตกในช่วงกลางเดือน มิ.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งในจำนวนนี้เป็นผู้เสียชีวิตจากเหตุดินถล่ม 109 ราย ขณะที่ผู้ประสบภัยรายอื่น เสียชีวิตจากเหตุน้ำท่วมและฟ้าผ่า

ส่วนปากีสถาน มียอดผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 178 ราย เป็นเด็ก 92 ราย นับตั้งแต่ฝนเริ่มตกในเดือน ก.ค. โดยบ้านเรือนพังถล่ม เป็นสาเหตุที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากที่สุด ตามข้อมูลจากสำนักงานบริหารจัดการภัยพิบัติแห่งชาติ (เอ็นดีเอ็มเอ).

เครดิตภาพ : AFP