เมื่อวันที่ 8 ส.ค. ร.ต.อ.หญิง น้ำฝน โพธิ์ปลอด รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองนครศรีธรรมราช ได้รับแจ้งเหตุ ควายเผือกเกิดอาการคลุ้มคลั่ง ไล่ขวิดคนเลี้ยงเสียชีวิตในคูน้ำริมถนนสายพุทธภูมิ บริเวณคอสะพานพุทธภูมิ หมู่ที่ 6 ต.มะม่วงสองต้น อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช จึงรีบไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.ท.วิรัตน์ แท่นทอง สว.(สอบสวน) กำลังตำรวจฝ่ายสืบสวน แพทย์เวร รพ.มหาราชนครศรีธรรมราช และเจ้าหน้าที่มูลนิธิใต้เต็กตึ๊ง
ในที่เกิดเหตุบริเวณคูน้ำริมถนน พบศพนายคำนึง หรือ “บังบุก” (สงวนนามสกุล) อายุ 53 ปี ชาว จ.นครศรีธรรมราช นอนคว่ำหน้าจมน้ำเสียชีวิตในคูน้ำ สภาพศพมีบาดแผลถูกเขาควายแทงเป็นแผลเหวอะหวะบริเวณหน้าขาขวาและอวัยวะเพศฉีดขาด และแผลบริเวณลำตัวหน้าท้องอีกหลายแผล หากจากจุดพบศพไปประมาณ 300 เมตร พบควายเผือกเพศผู้ตัวใหญ่ อายุประมาณ 5-6 ปี เดินวนเวียนอยู่ ทางเจ้าหน้าที่ต้องใช้ความระมัดระวังในการชันสูตรพลิกศพ
จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ควายเผือกตัวดังกล่าว มีนิสัยดุร้ายมาก จนเจ้าของเลี้ยงไม่ไหวส่งขายโรงเชือด แต่มีผู้ใจบุญไถ่ชีวิต ซื้อมาถวาย พระเทพสิริวชิรเวที (ไมตรี ปภารตโน) เจ้าคณะภาค 16 (ธรรมยุต) และเป็นผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร อดีตเจ้าอาวาสวัดพระนคร อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ซึ่ง เจ้าคุณไมตรี ได้ว่าจ้างให้ “บังมุก” คอยดูแลควายตัวนี้ โดยให้ค่าจ้างเดือนละ 1,500 บาท จนเวลาผ่านไป 1 ปี ปรากฏว่าควายตัวนี้เคยไล่ขวิดแทงชาวบ้านบาดเจ็บมาแล้ว 3-4 ราย
กระทั่งมาถึงคราวเคราะห์ร้ายของ “บังมุก” ที่พยายามใช้ไม้ไผ่ไล่ต้อนควายให้เดินขึ้นบนถนน ก่อนจะไล่ลงทุ่งนา ปรากฏว่าฝ่ายควายเผือกเกิดอารมณ์โมโห วิ่งเข้าหาก่อนไล่ขวิดแทงเข้าที่ขาขวาเป็นแผลฉกรรจ์ จากนั้นก็แทงเข้าลำตัวและตามร่างกายอีกหลายแผล แม้ฝ่าย “บังมุก” จะพยายามหนีแล้วแต่ก็ไม่ทัน สุดท้ายถูกไล่แทงจนจมน้ำเสียชีวิต หลังเกิดเหตุตำรวจได้ประสานไปยัง เจ้าคุณไมตรี แล้ว เพื่อจะนำควายเผือกตัวนี้ไปไว้ยังที่ปลอดภัย ไม่ออกมาทำร้ายผู้คนต่อไป.