ล่าสุดเมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเพจเฟซบุ๊ก ทนายคลายทุกข์ หรือที่หลายคนรู้จักกันดี เดชา กิตติวิทยานันท์ ได้ออกมาไลฟ์สดวิเคราะห์ความคืบหน้าของคดีดิไอคอน ซึ่งเขียนแคปชั่นระบุว่า “มีความพยายามที่จะทำให้คดีแชร์ลูกโซ่กลายเป็นคดีแพ่งโดยมีการฟ้องร้องคดีแพ่งและทำยอมทำให้คดีอาญาได้รับความเสียหาย”
โดยในช่วงไลฟ์สดทางด้านทนายเดชาเปิดเผยว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะแจ้งข้อหาเพิ่มเติมกับผู้ต้องหาทั้ง 18 คน ในคุกความผิดเกี่ยวกับ “การฟอกเงิน, แชร์ลูกโซ่ และกฎหมายอื่น ๆ ตามมา” กรณีของการที่มีทีมพยายามเปลี่ยนคดีอาญาแผ่นดินของ ดิไอคอนให้กลายเป็นคดีแพ่ง และมีหลายฝ่ายวิตกกังวลว่าอาจทำให้เหล่าบอสรอดคดี หลังมีการพาผู้เสียหายเกือบ 100 คน ไปยื่นคำร้องขอความช่วยเหลือและจะมีการฟ้องร้องเพื่อให้ผู้เสียหายได้เงินเร็วขึ้น
หากถามว่าเป็นเรื่องดีไหม เป็นเรื่องดีแต่ในมุมแง่ของกฎหมาย ถ้าหากไปที่สภาทนายความแล้วยื่นคำร้องขอได้รับเงินก่อน จะต้องมีการตกลงกับผู้ต้องหาที่อยู่ในคุก จากนั้นไปยื่นคำร้องโดยไม่ต้องเสียค่าบริการอะไร ไม่จำเป็นต้องใช้บริการสภาทนายไปยื่นคำร้องต่อศาล เป็นการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทก่อนฟ้อง แล้วตกลงกับทางผู้ต้องหาในคุกแต่งตั้งทนายมาเจรจา ฟังดูแล้วมันก็ดีและดูเหมือนว่าผู้เสียหายจะได้เงินได้ทอง แต่ข้อเท็จจริงแล้วนั้นมีหลายคนวิตกกังวลว่าคดีอาญาที่กำลังพิจารณาคดีอยู่ที่กองปราบฯ ปคบ.จะทำอย่างไร จะทำให้คดีเสียไปหรือไม่ เป็นเรื่องที่ตำรวจกำลังพิจารณาอยู่
การกระทำแบบนี้ผู้เสียหายได้ประโยชน์ แต่ผู้ต้องหาอาจจะไม่ต้องติดคุกหรือไม่ เพราะการยื่นคำร้องขอไกล่เกลี่ยก่อนฟ้อง ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียม ไม่ต้องใช้ทนายของสภาทนายความก็ได้ แต่มีข้อแม้ว่าผู้เสียหายต้องตกลงกับผู้ต้องหาที่อยู่ในคุกก่อนที่จะยื่นคำร้อง ถ้าตกลงกันได้ก็จบเลย ศาลพิพากษาตามยอม
ถ้าเมื่อเรื่องจบแล้วผู้เสียหายที่ได้รับการชดใช้แล้ว จะไปเป็นพยานให้ที่ ปคบ. หรือไม่ ถ้าไม่เป็น น้ำหนักของคดีอาญาจะไม่เพียงพอ ก็จบ ทำให้บรรดาบอสลอยนวลหรือไม่ เป็นสิ่งที่หลายคนมีความวิตกกังวล ทั้งนี้ด้านทนายเดชายังวิเคราะห์เพิ่มเติมอีกว่า ถ้าหากบอสดิไอคอนยินยอมจ่ายเงินให้ผู้เสียหายแล้ว ผู้เสียหายเหล่านั้นจะกลับมาเป็นพยานให้เจ้าหน้าที่หรือไม่ และทำให้ผู้ต้องหาทั้งหมด หลุดคดีหรือไม่…
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพ : @ทนายคลายทุกข์