นายมโนสิทธิ์ แจ้งจบ ประธานอนุกรรมการขับเคลื่อนโรงแรมขนาดเล็ก สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าเพื่อให้โรงแรมขนาดเล็กสามารถขอใบอนุญาตประกอบกิจการโรงแรมเข้าสู่ระบบได้ ว่า ขณะนี้โรงแรมขนาดเล็กยังไม่สามารถขอใบอนุญาตประกอบกิจการโรงแรมได้ เนื่องจากโรงแรมหลายแห่งที่อยู่ใกล้ชายฝั่งทะเลยังติดข้อกฎหมายสิ่งแวดล้อม ดังนั้นแม้กระทรวงมหาดไทยจะขยายระยะเวลาของกฎกระทรวงกำหนดลักษณะอาคารประเภทอื่นที่ใช้ประกอบธุรกิจโรงแรม (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2566 จากเดิมที่จะสิ้นสุดในวันที่ 18 สิงหาคม 2567 ไปสิ้นสุดวันที่ 18 สิงหาคม 2568 เพื่อให้ผู้ประกอบธุรกิจโรงแรมขนาดเล็กสามารถยื่นขอ แบบ อ.4 ใบอนุญาตเปลี่ยนการใช้อาคาร เพื่อรีโนเวตหรือแก้ไขดัดแปลงอาคารเก่าที่ก่อสร้างไว้แล้วให้ถูกต้องตามกฎหมายได้ทัน แต่ไม่สามารถยื่นขอใบอนุญาตได้ 100%
“ล่าสุดจากการประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การท่องเที่ยว โดยผมเป็นหนึ่งใน กมธ.ชุดนี้ด้วย ได้มีการเสนอให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมแก้กฎกระทรวงฯ เรื่อง กำหนดเขตพื้นที่และมาตรการคุ้มครองสิ่งแวดล้อม เพื่อให้โรงแรมที่อยู่ใกล้ชายฝั่งทะเลสามารถประกอบกิจการได้ถูกต้องตามกฎหมาย โดยไม่ต้องทุบหรือแก้ไขโครงสร้างอาคารให้เป็นไปตามกฎกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เนื่องจากโรงแรมมีการก่อสร้างมาก่อนที่กฎกระทรวงจะประกาศใช้ กระทั่งล่าสุด พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ทรัพยากรฯ ได้เซ็นลงนามในประกาศแล้ว คาดว่าจะประกาศใช้ช่วงเดือนกันยายน 2567 โดยจะมีผลบังคับใช้ในพื้นที่คือ ภูเก็ต พังงา กระบี่ ส่วนจังหวัดอื่นๆ เช่น เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ อยู่ระหว่างเสนอให้ขยายกฎหมายให้มีผลบังใช้เพิ่มเติม” นายมโนสิทธิ์ กล่าว
ทั้งนี้จากการแก้ไขกฎกระทรวงนี้จะทำให้มีโรงแรมสามารถยื่นขอจดทะเบียนเพื่อขอใบอนุญาตเพื่ออีกจำนวน 2,500 ห้อง จากจำนวนโรงแรมขนาดเล็กทั่วประเทศไทยรวม 85,000 แห่ง ได้ใบอนุญาตประกอบกิจการโรงแรมแล้วตามกฎหมายเก่าจำนวน 14,000 แห่ง ส่วนอีก 71,000 แห่งยังไม่ได้ใบอนุญาต นอกระบบทั่วประเทศที่มีจำนวนมาก นอกจากนี้กระทรวงทรัพยากรฯ ยังได้ยกเว้นให้โรงแรมที่มีจำนวนห้องพัก 1-49 ห้อง ไม่ต้องจัดทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมเบื้องต้นหรือไออีอี จากเดิมกำหนดให้โรงแรมที่มีจำนวนห้องพัก 1-29 ห้อง