เมื่อวันที่ 13 ต.ค. นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยภายหลังลงพื้นที่มอบถุงยังชีพให้ประชาชนผู้ประสบอุทกภัย และตรวจเส้นทางคมนาคมที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัย ในพื้นที่ จ.ลพบุรี และ จ.อ่างทอง ว่า ในปีนี้ยอมรับว่าปริมาณน้ำมาก ทำให้มีน้ำไหลลงจากที่สูงสู่ที่ลุ่มต่ำ โดยเส้นทางถนนที่เสียหายใน จ.ลพบุรี นั้น เดิมเป็นถนนของชลประทาน ซึ่งฐานรากอาจไม่แข็งแรง จึงได้สั่งการให้กรมทางหลวง (ทล.) ทำการสำรวจออกแบบ เพื่อเร่งซ่อมแซมแล้ว เบื้องต้นถนนที่เสียหายใน จ.ลพบุรี จะใช้งบในการซ่อมแซมประมาณ 600 ล้านบาท
นายศักดิ์สยาม กล่าวต่อว่า ส่วนในพื้นที่ จ.อ่างทอง ซึ่งปริมาณน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาที่เอ่อสูงขึ้น กัดเซาะทำให้ถนนในจังหวัดตามแนวแม่น้ำได้รับความเสียหาย มีประชาชนเดือดร้อนกว่า 872 หลังคาเรือน โดยจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ทำแนวกั้นน้ำบริเวณเมืองชั้นใน เพื่อป้องกันไม่ให้พื้นที่เศรษฐกิจ และถนนสายหลักในการคมนาคม เช่น ถนนสายเอเซียถูกตัดขาด ทำให้ประชาชนที่อยู่อาศัยอยู่นอกแนวกั้นน้ำได้รับผลกระทบบ้านเรือนถูกน้ำท่วมเสียหายหนัก คาดว่าจะใช้งบในการซ่อมแซมถนนในพื้นที่ จ.อ่างทอง ประมาณกว่า 40 ล้านบาท
“การซ่อมแซมถนนทั้ง 2 จังหวัดนี้ กระทรวงคมนาคมจะเร่งรัดของบกลางจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) หากทันในสัปดาห์หน้าก็จะดำเนินการทันที หรืออย่างช้าจะเสนอได้ในสัปดาห์ถัดไป อย่างไรก็ตามสำหรับความเสียหายของถนนจากอุทกภัยทั่วประเทศนั้น ได้มอบให้นายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ รองปลัดกระทรวงคมนาคม รวบรวมตัวเลขความเสียหายทั้งหมดให้แล้วเสร็จภายในสัปดาห์นี้ เพื่อขอจัดสรรงบประมาณในการซ่อมแซมต่อไป” รมว.คมนาคม กล่าว
นายศักดิ์สยาม กล่าวอีกว่า กระทรวงคมนาคม จะดำเนินการตามนโยบายของนายกรัฐมนตรีใน 2 มิติ คือ การสำรวจและเร่งซ่อมแซมเส้นทางคมนาคมที่ได้รับความเสียหาย โดยได้มอบให้ ทล. และกรมทางหลวงชนบท (ทช.) ไปตรวจสอบว่ามีถนนเส้นทางใด ที่การก่อสร้างในอดีต หรือปัจจุบันกีดขวางทางน้ำ ทำให้เกิดปัญหาน้ำท่วมขึ้น และต้องดำเนินการก่อสร้างปรับปรุง โดยได้เร่งรัดให้ดำเนินการปรับปรุงถนนเหล่านี้ คาดว่าจะได้ข้อสรุปเร็วๆ นี้ ขณะเดียวกันได้สั่งการให้หน่วยงานกระทรวงคมนาคม เตรียมพร้อมรับมือพายุลูกใหม่ โดยเฉพาะการเข้าช่วยเหลือประชาชน ซึ่งในสัปดาห์หน้ากระทรวงคมนาคมจะลงพื้นที่ไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา และ จ.ปทุมธานี.