เมื่อวันที่ 1 ส.ค. ร.ต.อ.สุวิทย์ สุวรรณราช รอง สว. (สอบสวน) สภ.ย่านตาขาว จ.ตรัง ได้รับแจ้งเหตุมีอดีตสามียิงภรรยาเสียชีวิต ตัวผู้ก่อเหตุยังอยู่ภายในบ้านเลขที่ 250 หมู่ 7 บ้านทับจาก ต.ทุ่งกระบือ อ.ย่านตาขาว หลังรับแจ้งจึงรุดไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่

ที่เกิดเหตุพบว่าเป็นบ้านปูนชั้นเดียว มีรั้วรอบขอบชิด ประตูรั้วประตูบ้านถูกล็อกสนิทด้วยแม่กุญแจ ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ยังมองลอดเข้าไปเห็นตัวของ ร.ต.ท.โชค รองเดช อายุ 69 ปี อดีตตำรวจเกษียณอายุราชการ ยืนถืออาวุธปืนวนเวียนอยู่ภายในบ้าน เจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมกับ พ.ต.อ.พูนศักดิ์ เซ็งแซ่ ผกก.สภ.ย่านตาขาว ได้พยายามพูดจา เพื่อเจรจา ด้วยการตะโกนและใช้โทรโข่งรถยนต์สายตรวจกับผู้ก่อเหตุเพื่อให้วางอาวุธปืนลง และออกมามอบตัว แต่จังหวะนั้นผู้ก่อเหตุได้ตะโกนออกมาว่าให้ออกไป “ผมพกกระสุนมา 2 แม็กกาซีน” ก่อนที่จะได้ยินเสียงปืนดังขึ้นมาอีก 1 นัด เจ้าหน้าที่จึงได้ถอยร่นออกมา พร้อมกับประสานชุดปฏิบัติการพิเศษศรีตรัง (หนุมานตรัง) เข้ามาร่วมปฏิบัติการครั้งนี้

ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ทำการพังประตูรั้วบ้านเข้าไป เมื่อเปิดประตูหน้าบ้านเข้าไปถึง บนแคร่ไม้สัก หลังประตูหน้าบ้านพบร่างของ ร.ต.ท.สมโชค รองเดช อายุ 69 ปี ใช้อาวุธปืนพกสั้นชนิดออโตเมติก ยี่ห้อ ซิกซาวเออร์ ขนาด 9 มม. ยิงเข้าที่ขมับขวา 1 นัด นอนเสียชีวิตบนแคร่ไม้ ในสภาพเท้าตั้งอยู่บนพื้นกระเบื้อง ตรวจสอบบริเวณหน้าประตูห้องนอนพบรอยคราบเลือดหยดเป็นทางยาว ภายในห้องนอนพบร่างของ นางสมคิด รัตนพันธ์ อายุ 70 ปี ซึ่งเป็นอดีตภรรยาผู้ก่อเหตุ นั่งบนพื้นกระเบื้อง หลังพิงเตียงนอน ถูกยิงด้วยอาวุธปืนกระบอกเดียวกันเข้าที่ร่างกายทั้งบริเวณหน้าอกและตามลำตัวรวมแล้วกว่า 16 นัด บริเวณต้นแขนซ้ายถูกฟันด้วยของมีคม เป็นบาดแผลฉีกขาดประมาณ 1 คืบ รวมทั้งกระดูกแขนซ้ายท่อนบนหัก

เจ้าหน้าที่ทำการตรวจสอบใกล้กับศพฝ่ายหญิง พบปลอกกระสุนปืนขนาด 9 มม. ที่ใช้แล้วตกอยู่จำนวน 16 ปลอก และกระสุนปืนที่ยังไม่ได้ใช้งานตกอยู่อีก 1 นัด มีดอีโต้ตกอยู่อีก 1 เล่ม พร้อมกับตรวจสอบอาวุธปืนที่อยู่ติดกับตัวฝ่ายชาย พบว่ายังมีกระสุนคงค้างอยู่ในลำกล้องจำนวน 1 นัด พบมีแม็กกาซีนจำนวน 2 อันภายในไม่มีกระสุนโดยถูกกดยิงออกไปทั้งหมดแล้ว

เจ้าหน้าที่ยังคงตรวจสอบภายในบ้านพัก พบว่า หน้าต่างกระจกประตูหน้าบ้านแตก 1 บาน ลูกบิดประตูห้องนอนแตกหัก ห่างออกไปจากบ้านหลังเกิดเหตุประมาณ 20-30 เมตร ซึ่งเป็นหน้าบ้านของเพื่อนบ้านที่อยู่ระหว่างประกาศขายพบจยย. ยี่ห้อ ซูซูกิ สีแดง-ดำ ทะเบียน ขยว 256 ตรัง ซึ่งเป็นของฝ่ายชายจอดอยู่ โดยที่ยังมีกุญแจรถเสียบค้างเอาไว้ เจ้าหน้าที่ได้ทำการเก็บรวบรวมพยานหลักฐานทุกชิ้นไว้เป็นหลักฐาน

พ.ต.อ พูนศักดิ์ เปิดเผยว่า สำหรับระยะเวลาที่ก่อเหตุยิงอดีตภรรยากับยิงตัวเองเสียชีวิตน่าจะใกล้เคียงกันห่างกันประมาณ 15-20 นาที  ส่วนประเด็นปัญหาน่าจะเกิดจากฝ่ายชายเพิ่งเลิกกับภรรยา ได้ประมาณ 1 เดือนก่อนที่ภรรยาจะย้ายไปพักอยู่กับญาติ ที่ อ.ทุ่งสง จ.นครศรีฯ และเพิ่งกลับมาอยู่บ้านหลังนี้ประมาณ 3 วันก่อนเกิดเหตุ ซึ่งอาจจะยังหึงหวงกันอยู่ โดยบ้านหลังนี้เป็นชื่อของทั้งสองคน ซึ่งภรรยาไม่ได้ทำงานอะไร แต่ผู้ก่อเหตุเป็นอดีตตำรวจเกษียณราชการมาหลายปีแล้ว

 ด้าน นายอารัญ ชูทอง อายุ 37 ปี เพื่อนบ้านหลังติดกัน กล่าวว่า ก่อนหน้าจะเกิดเหตุฝ่ายชาย ได้ขับรถมาวนเวียนหน้าบ้าน โดยดูจากซ้ายไปขวา ก่อนที่ประมาณบ่ายโมงกว่าๆ จะได้ยินเสียงฝ่ายชายตะโกนเรียกฝ่ายหญิงที่ประตูหน้าบ้าน สักพักก็ได้ยินเสียงว่าฝ่ายชายเข้าไปในบ้าน แต่ไม่ได้ยินเสียงฝ่ายหญิงตอบรับ หรือออกมาเปิดประตูให้ ห่างไปประมาณ 10 นาที ก็ได้ยินเสียงทะเลาะวิวาทกัน แต่ได้ยินเบามากๆ ซึ่งอาจจะเพราะทั้งคู่อยู่ในห้องนอน ก่อนที่จะได้ยินเสียงปืนดังขึ้นหลายนัดประมาณ 4-5 นัด ซึ่งก่อนหน้านี้ตนก็ไม่เคยได้ยินเสียงทะเลาะกันมาก่อน โดยฝ่ายภรรยาออกไปอยู่ข้างนอกได้สักพักแล้ว ก่อนกลับเข้ามาเมื่อประมาณ 3-4 วันที่ผ่านมานี้เอง

ด้าน ร.ต.ท.วรเชษฐ แก้วเพ็ง อายุ 65 ปี อดีตตำรวจ และเป็นเพื่อนสนิทฝ่ายชาย เล่าว่า แกมีปัญหาครอบครัว เถียงกันทุกวัน เจอกันบ่อย ซึ่งเมื่อ 2 วันก่อน ก็ได้มาตามตนให้มาเจรจาปัญหาให้จบ ๆ กันไป เกี่ยวกับเรื่องของคนตาย (ภรรยา) เรื่องทรัพย์สิน เรื่องของในบ้านที่พี่โชคซื้อมา ให้มีการมาเจรจาคืนกลับ ซึ่งผู้ก่อเหตุโทรหาตนอยู่บ่อย เพราะเครียดเรื่องทรัพย์สินกับภรรยา จริง ๆ แล้วแกก็ไม่อยากเลิกรากับภรรยา โดยฝ่ายภรรยาเป็นคนจ่ายเงินให้ผู้ก่อเหตุ 3 แสนบาทเพื่อให้เซ็นใบหย่า ซึ่งตอนเช้าก็ยังโทรหาตน เพราะบ่นว่าเครียด แต่ไม่ได้พูดถึงเรื่องจะก่อเหตุ โดยตอนเกิดเรื่อง ผู้กำกับโทรหาตน แต่ตนยังมาไม่ถึง ผู้ก่อเหตุก็ลงมือก่อเหตุเสียก่อนแล้ว