เมื่อวันที่ 11 ต.ค. ที่การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) นายสุรเชษฐ์ เหล่าพูลสุข ผู้ว่าการ กทพ. เป็นประธานในพิธีลงนามสัญญาจ้างก่อสร้างโครงการทางพิเศษสายพระราม 3 – ดาวคะนอง – วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานครด้านตะวันตก สัญญาที่ 1 และสัญญาที่ 3 ระหว่าง กทพ. กับ บริษัท ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) บริษัท ชีวิล คอนสตรัคชั่น เซอร์วิสเซส แอนด์ โปรดักส์ จำกัด บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) และบริษัท วิจิตรภัณฑ์ก่อสร้าง จำกัด และพิธีลงนามข้อตกลงคุณธรรม (Integrity Pact)
นายสุรเชษฐ์ เปิดเผยว่า กทพ. ได้ดำเนินการโครงการทางพิเศษสายพระราม 3 – ดาวคะนอง-วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานครด้านตะวันตก โดยงานก่อสร้างดังกล่าว แบ่งเป็น 5 สัญญา ประกอบด้วย สัญญาที่ 1-4 เป็นงานโยธา และสัญญาที่ 5 เป็นงานระบบจัดเก็บค่าผ่านทางและระบบควบคุมการจราจร โดยได้เริ่มดำเนินการก่อสร้างในส่วนของสัญญาที่ 4 ตั้งแต่วันที่ 16 ม.ค.63 และสัญญาที่ 2 ตั้งแต่วันที่ 6 พ.ค.63 สำหรับพิธีลงนามสัญญาจ้างก่อสร้างโครงการฯ ในครั้งนี้ เป็นในส่วนของสัญญาที่ 1 และสัญญาที่ 3
มีรายละเอียดของสัญญาดังนี้ สัญญาที่ 1 งานก่อสร้างทางยกระดับขนาด 6 ช่องจราจร ซ้อนทับไปตามแนวถนนพระราม 2 ตั้งแต่ กม. 13+000 ถึง กม. 6+600 ของถนนพระราม 2 ระยะทางรวมประมาณ 6.4 กิโลเมตร (กม.) ซึ่ง กทพ. ได้ว่าจ้างกิจการร่วมค้า ยูเอ็น-ซีซี ประกอบด้วย บริษัท ยูนิค เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) และบริษัท ซีวิล คอนสตรัคชั่น เซอร์วิสเซส แอนด์ โปรดักส์ จำกัด มีระยะเวลาการก่อสร้างตามสัญญา 1,020 วัน มีมูลค่าก่อสร้างตามสัญญา 7.35 พันล้านบาท
นายสุรเชษฐ์ กล่าวต่อว่า ส่วนสัญญาที่ 3 งานก่อสร้างทางยกระดับขนาด 6 ช่องจราจร คร่อมตามแนวทางพิเศษเฉลิมมหานครช่วงดาวคะนอง – สุขสวัสดิ์ – ราษฎร์บูรณะ ระยะทางรวมประมาณ 5 กม. ซึ่ง กทพ. ได้ว่าจ้างกิจการร่วมค้า ไอทีดี-วีซีบี ประกอบด้วยบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) และ บริษัท วิจิตรภัณฑ์ก่อสร้าง จำกัด มีระยะเวลาการก่อสร้างตามสัญญา 1,020 วัน มีมูลค่าก่อสร้างตามสัญญา 7.35 พันล้านบาท ทั้งนี้เมื่อโครงการก่อสร้างแล้วเสร็จคาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการทางพิเศษ สายดังกล่าวได้ในช่วงปลายปี 67 โดยจะช่วยให้การจราจรของกรุงเทพฯ ที่มุ่งสู่ภาคใต้ของประเทศไทยมีความคล่องตัวขึ้น