ข่าวดังสะเทือนวงการตลาดหุ้นไทยระลอกใหม่ล่าสุด ของ บมจ. พลังงานบริสุทธิ์ หรือ EA ที่เกิดจากการกระทำทุจริตหรือฉ้อโกง ของผู้บริหารและกรรมการบริษัท คือ นายอมร ทรัพย์ทวีกุล และนายสมโภชน์ อาหุนัย นั้น สรุป ย่อๆ คือ
•เรื่องมีอยู่ว่า เมื่อปี 2559 ทาง ก.ล.ต. ได้รับเรื่องร้องเรียนว่า EA อาจมีการทุจริตผ่านบริษัทย่อยในโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้า 2 แห่ง พร้อมส่งหลักฐานที่เกี่ยวข้องบางส่วน จึงได้ตรวจสอบหาความจริงและความถูกต้องเป็นไปตามข้อร้องเรียนหรือไม่
•จากนั้นได้ตั้งประเด็นตรวจสอบ บมจ.พลังงานบริสุทธิ์ หลายประเด็น ที่เกี่ยวพันกันหลายมาตรา มีความซับซ้อนในการตรวจสอบ และมีข้อมูลที่ต้องพิจารณาจำนวนมาก
•แต่ตามกระบวนการบังคับใช้กฎหมาย ก.ล.ต. ต้องให้เวลาและโอกาสผู้ต้องสงสัยชี้แจงอย่างเต็มที่เพื่อความเป็นธรรม ทั้งกรณีการเรียกมาสอบถ้อยคำและการให้ชี้แจงเป็นหนังสือ จึงได้ประสานหน่วยงานกำกับในต่างประเทศหลายแห่งและได้ความร่วมมือรวมเป็นอย่างดี
•จากการการตรวจสอบข้อมูลผ่านหน่วยงาน ก.ล.ต. หลายประเทศ ซึ่งใช้เวลานาน เกือบ 10 ปี พบว่า บุคคลทั้งสามกระทำผิดจริง จึงได้กล่าวโทษ
•เมื่อวันที่ 12 ก.ค.2567 ก.ล.ต. จึงได้ออกเอกสารเผยแพร่ข่าวว่า ได้กล่าวโทษ นายสมโภชน์ อาหุนัย และนายอมร ทรัพย์ทวีกุล กรรมการและผู้บริหาร EA และนายพรเลิศ เตชะรัตโนภาส ร่วมกันกระทำการทุจริตการจัดซื้ออุปกรณ์จากต่างประเทศ และทุจริตการจัดซื้อโปรแกรมซอฟต์แวร์เพื่อใช้ในโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์เป็นเหตุให้บุคคลทั้ง 3 รายได้รับผลประโยชน์ จำนวนรวม 3,465.64 ล้านบาท
•จากนั้น มีการตอบข้อซักถาม ว่าเหตุใดกรณีนี้จึงดำเนินคดีทางอาญา เพราะกรณีนี้เป็นความผิดทุจริตตามมาตรา 311 ซึ่งเป็นความผิดทางอาญา จึงไม่สามารถใช้มาตรการลงโทษทางแพ่งได้
•อีกทั้ง การถูกกล่าวโทษข้างต้นมีผลให้ผู้ถูกกล่าวโทษเข้าข่ายมีลักษณะขาดความน่าไว้วางใจในการเป็นกรรมการและผู้บริหารของบริษัทที่ออกหลักทรัพย์และบริษัทจดทะเบียน จึงไม่สามารถเป็นกรรมการและผู้บริหารของบริษัทที่มีหลักทรัพย์จดทะเบียนนับตั้งแต่วันที่ถูกกล่าวโทษไปจนตลอดระยะเวลาที่ถูกกล่าวโทษดำเนินคดี
•ล่าสุด วันนี้ 14 ก.ค.2567 ก.ล.ต.ได้เผยแพร่ข่าวเพิ่มเติมอีกว่า การกระทำความผิดได้เกิดในช่วงปี 2556 ถึงปี 2558 ต่อเนื่องกัน โดยกรณีนี้เป็นการกระทำความผิดตามมาตรา 311 ซึ่งมีอายุความ 15 ปี จึงจะหมดอายุความในปี 2573 (นับแต่ปี 2558) ส่วนกรณีความผิดตามมาตรา 281/2 วรรคสอง ประกอบมาตรา 89/7 และมาตรา 89/24 มีอายุความ 10 ปี จึงจะหมดอายุความในปี 2568 (นับแต่ปี 2558)
•โทษที่จะได้รับกรณีผู้กระทำผิดเป็นกรรมการ ผู้บริหารในบริษัทจดทะเบียนที่มีหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ มีโทษตามมาตรา 313 คือ ระวางโทษจำคุก 5 – 10 ปี และปรับเงิน 2 เท่าของราคาทรัพย์สินหรือประโยชน์ที่บุคคลดังกล่าวได้กระทำการฝ่าฝืน
•หลังจากที่ถูกกล่าวโทษแล้ว ทางพนักงานสอบสวนจะสืบสวนสอบสวนรวบรวมข้อเท็จจริงและพยานหลักฐาน และเสนอความเห็นเกี่ยวกับคดีไปยังพนักงานอัยการ
•จากนั้น พนักงานอัยการจะพิจารณาความสมบูรณ์ครบถ้วนของสำนวนการสอบสวนของพนักงานสอบสวน ก่อนมีความเห็นสั่งฟ้องหรือสั่งไม่ฟ้องผู้ต้องหาตามสำนวนการสอบสวนดังกล่าว และในคดีที่พนักงานอัยการได้ยื่นฟ้องผู้ต้องหาเป็นจำเลยแล้ว ศาลยุติธรรมจะเป็นผู้พิจารณาและพิพากษาต่อไป
•ในช่วงบ่ายของวันเดียวกันนี้ ทาง EA หรือ บมจ.พลังงานบริสุทธิ์ จึงออกจดหมายเรียนเชิญสื่อมวลชน ร่วมงานแถลงข่าว “บมจ.พลังงานบริสุทธิ์ (EA) เปิดตัวบอร์ดบริหารชุดใหม่ ยืนยันปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่ง ธุรกิจมั่นคงมีอนาคต” โดยงานจัดขึ้นในวันจันทร์ที่ 15 กรกฎาคม 2567 เวลา 08.00 – 11.00 น. ที่โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ แอท เซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว
อนึ่ง มูลเหตุที่มีการร้องเรียน EA ที่ผ่านมา มีผู้ประสงค์ดีได้มีการเปิดเผยเอกสารผ่านทางเพจ คุยหุ้น ว่า ผู้ที่ร้องเรียนในเรื่องนี้ก็คือ ภรรยา ของ นายสมโภชน์ อาหุนัย นั่นเอง!! โดยมีใจความว่า
“ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ข้าพเจ้าเริ่มกังวลกับนายเอก อาหุนัย ซึ่งเป็นลูกชายคนโตของ ข้าพเจ้ากับนายสมโภชน์ เพราะนายเอก อาหนัย กำลังทำหน้าที่เป็นประทับตรายางของนายสมโภชน์ เพื่อลงนามในเอกสารทุกประเภทซึ่งนายสมโภชน์ขอให้เขาเซ็น เอกสารบางฉบับที่นายสมโภชน์ให้นายเอกลงนามนั้น ถูกนำไปใช้เป็นส่วนหนึ่งของเอกสาร ประกอบการเกี่ยวข้องกับแผนปฏิบัติการฉ้อโกง อย่างไรก็ตาม นายเอกคิดว่าการลงนามในเอกสารนั้นไม่ผิด
นายเอก อาหนัย รู้สิ่งที่ข้าฯร้องเรียนกับ ก.ล.ต. เมื่อวันที่ ! เมยายน 2559 แต่เพราะว่าหลังจากผ่านไปเกือบ 6 ปี ก.ล.ต. ก็มิได้ลงโทษทีมซื้อโกง และไม่ดำเนินการทางกฎหมายใด ๆ กับทีมฉ้อโกงเลย นายเอกจึงเชื่อในสิ่งที่นายสม โถชน์บอกเขาว่า
“การฉ้อโกงดังกล่าว ถือเป็นแนวทางปฏิบัติทั่วไปในบริษัทจดทะเบียนส่วนใหญ่ในประเทศไทย แะก.ล.ต. ไม่สามารถทำอะไรเพื่อหยดยั้งได้”
นอกจากนี้ เพราะในช่วงเกือบ 6 ปีที่ผ่านมา คุณสม โภชน์ยังมีภาพลักษณ์ที่ดีต่อสังคมไทย ได้สร้างภาพ และได้รับชื่อเสียงดีงามในฐานะบุคคลที่ประสบความสำเร็จอย่างสูง เนื่องจากเขาสามารถนำ EA ไปสู่การเดิบโตที่ โดดเด่นในเวลาเพียง 10 ปี และทำให้นายสมโกชน์ขึ้นเป็นมหาเศรษฐีอันดับที่ 7 ของ ประเทศไทย ตามที่ Forbes Thailand ประกาศ นายเอกจึงมองว่านายสมโภชน์เป็นผู้นำที่ดีและเป็นผู้นำที่ มีความรู้ความสามารถเป็นพิเศษ นายเอก อาหนัยก็เลยเต็มใจทำตามทุกอย่างที่นายสมโภชน์สั่งให้ทำ
ภาษาจีนมีสุภาษิตสอนว่า “คานบนไม่ตรง คานล่างก็จะเบี้ยวตาม” ถ้าพ่อเป็นพลเมืองไม่ดี ไม่ได้ปฏิบัติตามกฎหมาย ลูกจะไม่สามารถเป็นพลเมืองดีได้เช่นกัน เพราะพ่อไม่สอนให้ลูกรู้ว่า ควรทำทุกอย่างตามกฎหมายและต้องซื่อสัตข์สุจริต ยิ่งแข่กว่านี้คือพ่อยังสอนให้ลูกเรียนรู้วิธีที่พ่อทำสิ่งผิดกฎหมายและจรรยาบรรณ แบบที่นายสมโภชน์ อาหนัย สอนนายเอก อาหนัย จึงเป็นไปไม่ได้ที่ลูกชายจะเรียนรู้สิ่งที่ถูกต้องและควรทำ และสิ่งที่ผิดและขัดต่อกฎหมายหรือจรรยาบรรณ เพราะฉะนั้นจึงไม่ควรทำ
ในฐานะแม่ของนายเอก อหนัย และในฐานะกรรยาที่ชอบด้วยกฎหมายของนายสมโภชน์ อาหนัย ข้าพเจ้าไม่อยากเห็นพวกเขาทำความผิดทางอาญาต่อไป เพื่อหาเงินมหาศาลเพื่อสร้าง
ความมั่งคั่งให้ครอบครัว นั่นเป็นเหตุผลที่ข้าพเจ้าตัดสินใจใช้เวลาเกือบ เดือนเพื่อดิ้นรนแก้ไข
คำให้การ ข้าพเจ้าหวังว่าหลังจากที่ข้าพเจ้าอธิบายทกอย่างเป็นภายาไทยแล้ว เจ้าหน้าที่ ก.ล.ต. สามารถตัดสินใจได้อย่างรวดเร็วเพื่อเคลียร์ข้อกังวลของข้าพเจ้า“
