เมื่อวันที่ 8 ก.ค. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง จเรตำรวจแห่งชาติ (จตช.) ในฐานะผู้อำนวยการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับน้ำมันเชื้อเพลิง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวภายหลัง พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) มีคำสั่งเด้ง พล.ต.ต.พฤทธิพงศ์ นุชนารถ ผู้บังคับการตำรวจน้ำ (ผบก.รน.) ให้มาช่วยราชการที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โดยขาดจากต้นสังกัดเดิม

พล.ต.อ.ไกรบุญ กล่าวว่า เรื่องคำสั่งย้ายเป็นคำสั่งของผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ส่วนเรื่องการตรวจสอบเป็นหน้าที่ของหัวหน้าหน่วยอย่างผู้บังคับการตำรวจน้ำ เมื่อเกิดเหตุแบบนี้ขึ้นก็จะต้องรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และถือว่าเป็นเรื่องที่ถูกต้องแล้ว ซึ่งเราประสานงานกับ บช.ก. ให้กวาดบ้านตัวเองอยู่ตลอด และรับรายงานการดำเนินการอยู่ตลอด

ส่วนเรื่องคดี พล.ต.อ.ไกรบุญ กล่าวว่า “ขอเวลาอีกแป๊บนึง จะเอาขบวนการนี้ออกมาแฉ ตนจับหมด ไม่ต้องห่วง”

ผู้สื่อข่าวถามถึงเรื่องการออกหมายจับเสี่ยโจ้ ที่ไปอยู่ในประเทศเพื่อนบ้านนั้น พล.ต.อ.ไกรบุญ กล่าวว่า ต้องเป็นหมายจับในภาพรวมของคดี ใครที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดในส่วนไหน ก็จะต้องถูกออกหมายจับ ส่วนที่เสี่ยโจ้ถือ 2 สัญชาติ จะมีปัญหาเรื่องการนำตัวมาดำเนินคดีหรือไม่นั้น ตนเอามาดำเนินคดีหมด จะได้ตัวหรือไม่ก็เป็นอีกเรื่อง แต่การกระทำความผิด ต้องถูกออกหมายจับอย่างแน่นอน

เมื่อถามถึงกรณีนายหนุ่ม เพชรบุรี บุคคลที่คาดว่าเป็นญาติกับเสี่ยโจ้ ที่ บช.ก. ออกหนังสือเชิญตัวครั้งแรกให้เข้ามาให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับแชตหลุด แต่ไม่สามารถติดต่อได้นั้น พล.ต.อ.ไกรบุญ กล่าวว่า ขอให้เป็นเรื่องของพนักงานสอบสวน และขอไม่ให้ข้อมูล เพราะกลัวเสียรูปคดี

ตำรวจน้ำวุ่น! ของกลางเรือบรรทุกน้ำมันเถื่อน 3 ลำ จอดในทะเลหนีหายจากอ่าวสัตหีบ

เมื่อถามว่าจะมีการเรียกให้รักษาราชการแทน ผู้บังคับการตำรวจน้ำ เข้ามารับนโยบายหรือไม่ พล.ต.อ.ไกรบุญ กล่าวว่า ได้เรียกเข้ามาตั้งแต่เมื่อช่วงเช้าแล้ว และได้มอบนโยบายไปแล้ว ก็ต้องให้เวลาเขาไปวางแผนก่อน ถ้ายังทำไม่ดีก็เปลี่ยนอีก หากไปแล้วยังแก้ปัญหาไม่ได้ ก็เปลี่ยนอีก ตำรวจเรามีเยอะ

ส่วนเรื่องน้ำมันเถื่อนในคดีนี้ จะจบภายในปีนี้หรือไม่ พล.ต.อ.ไกรบุญ ยืนยันว่า จบแน่นอน

เมื่อถามถึงกรณีที่มีเจ้าหน้าที่ของรัฐ เข้าไปเกี่ยวข้องกับคดีนั้น พล.ต.อ.ไกรบุญ กล่าวว่า ขอเวลาให้คณะทำงานของ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ได้ทำงานก่อน แต่ยืนยันว่าในส่วนของเรื่องคดีนั้น ตนเอาคนที่เกี่ยวข้องทั้งหมดอย่างแน่นอน

เมื่อถามว่ากังวลว่าจะเจอตอในคดีหรือไม่ พล.ต.อ.ไกรบุญ ส่ายหน้าพร้อมยืนยันว่า ไม่กลัว ตนทำตามกฎหมาย ไม่กลัวอะไรทั้งนั้น เรายึดมั่นในสิ่งที่ถูกต้อง ไม่มีอะไรต้องกลัว

เมื่อถามว่าการดำเนินการกับเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้อง จะถูกมองว่าช้าไปหรือไม่ พล.ต.อ.ไกรบุญ กล่าวว่า วันนี้ก็เปลี่ยนผู้บังคับการตำรวจน้ำแล้ว เดี๋ยวคนที่เกี่ยวข้องก็ต้องออกมาทั้งหมด ส่วนเรื่องพยานหลักฐานก็ต้องใช้เวลา เราจะลงโทษทางวินัยก็ยังไม่รู้ว่าจะถึงขั้นออกจากราชการหรือไม่ ฉะนั้นต้องให้ความเป็นธรรม รอบคอบ และชัดเจน

“ในฐานะที่เป็นจเรตำรวจ การตรวจสอบข้อเท็จจริง ก็ไม่ได้ทำได้โดยรวดเร็ว ขึ้นอยู่กับพยานหลักฐาน เวลาการเข้ามาให้การ และการให้ปากคำ พยานแวดล้อมต่างๆ ซึ่งเรือหายมีหลายปัจจัย ทั้งการพยากรณ์อากาศ ว่าสอดคล้องกับเวลาหรือไม่ ต้องดูรายละเอียดหลายเรื่อง ถึงจะดูได้ว่าเขาประมาทเลินเล่อหรือไม่” พล.ต.อ.ไกรบุญ กล่าว.