นายภานุ แย้มศรี ผวจ.พระนครศรีอยุธยา ประธานการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายสมศักดิ์ เจริญไพฑูรย์ รอง ผวจ.พระนครศรีอยุธยา นายประทีป การมิตรี ปลัดจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พันเอก(พ) เพิ่มศักดิ์ ขุนโขลน รอง ผอ.รมน.จว. นพ.พีระ อารีรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พร้อม ผู้อำนวยการโรงพยาบาล สาธารณสุขอำเภอ ตัวแทนภาคธุรกิจเอกชน จำนวนกว่า 50 คน เข้าร่วมการประชุม ที่ห้องประชุมอโยธยา ศาลากลางจังหวัดพระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา

นายภานุ แย้มศรี ผวจ.พระนครศรีอยุธยา ประธานการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า การประชุมดังกล่าวเพื่อติดตามและกำหนดมาตรการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ภายในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยที่ประชุมได้ติดตามสถานการณ์ดังกล่าง ซึ่งมีผู้ป่วยติดเชื้อสะสม 3,066 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 1 ราย ยอดเสียชีวิตสะสม 27 ราย ในส่วนสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่อำเภอวังน้อย หลังจากดำเนินการตรวจค้นหาผู้ติดเชื้อเชิงรุก จำนวน 810 คน พบผู้ติดเชื้อโควิด จำนวน 179 คน แบ่งเป็นพนักงานของบริษัท ลอสคัม (ประเทศไทย) จำกัด จำนวน 94 ราย กลุ่มพนักงานแฟคเตอรี่แลนด์ ต.วังจุฬา อ.วังน้อย จำนวน 44 ราย และกลุ่มแรงงานต่างด้าวตลาดใหญ่วังน้อย จำนวน 26 ราย โดยจังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีคำสั่ง ที่ 1689/2564 ลงวันที่ 5 กรกฎาคม 2564 ให้ปิดบริษัท ลอสคัม (ประเทศไทย) จำกัด ไว้เป็นการชั่วคราว 3 วัน ตั้งแต่วันที่ 6 – 8 กรกฎาคม 64 เพื่อให้บริษัทจัดทำแผนเตรียมการเปิดดำเนินการเสนอคณะกรรมการฯ ตามมาตรการที่ทางราชการกำหนด ซึ่งในวันนี้ที่ประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อมีมติเห็นชอบแผนการเตรียมการเปิดดำเนินการของบริษัทตามขั้นตอนข้อกำหนดตามมาตรการด้านสาธารณสุขและกำหนดมาตรการเร่งด่วนเพื่อควบคุมและป้องกันจำกัดวงจรการแพร่ระบาด

จึงมีคำสั่งให้ปิดหอพัก จำนวน 3 แห่ง ใกล้เคียง บริษัท ลอสคัม (ประเทศไทย) จำกัด โดยให้จัดตั้งเป็นโรงพยาบาลสนาม เพื่อนำผู้ติดเชื้อโควิดเข้าระบบการรักษาพยาบาล และเป็นสถานที่กักตนของผู้สัมผัสเสี่ยงสูงเพื่อสังเกตอาการเป็นระยะเวลา 14 วัน ตั้งแต่วันที่ 9 – 22 กรกฎาคม 2564 ส่วนสถานการณ์ควบคุมโรคโควิด-19 ที่ตลาดใหญ่วังน้อย ที่คณะกรรมการควบคุมได้ออกคำสั่งปิดเป็นการชั่วคราว 7 วัน ตั้งแต่วันที่ 1–7 กรกฎาคม 64 และให้ทางเจ้าของตลาดได้ประเมินตลาดตนเองตามมาตรการ Thai Stop Covid Plus ผลการประเมินพบว่า สามารถดำเนินการตามมาตรการได้ 11 ข้อ ซึ่งอยู่ระหว่างดำเนินการตามมาตรการ 1 ข้อ คือ การจัดระยะห่างของแผงค้า หรือผู้ขายของ รวมถึงระยะห่างของผู้ใช้บริการในการเลือกสินค้าและชำระเงิน อย่างน้อย 1 เมตร ทำให้เกิดปัจจัยเสี่ยง พบร้านติดเชื้อร้อยละ 50 และมีผู้สัมผัสเสี่ยงสูงจำนวนมากในตลาดใหญ่วังน้อย จึงมติให้ขยายเวลาปิดตลาดใหญ่วังน้อยอีก 7 วัน ตั้งแต่วันที่ 8 – 14 กรกฎาคม 2564 โดยผู้ขายจะต้องผ่านการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ทั้ง 2 ครั้ง รวมทั้งจัดทำทะเบียนผู้ขายให้ชัดเจนเว้นระยะห่างระหว่างร้านหรือจัดทำฉากกั้นและต้องกำหนดจุด เข้า-ออก และมีจุดคัดกรองก่อนเข้าใช้บริการให้ชัดเจนอีกด้วยต่อไป