เมื่อวันที่ 1 ก.ค. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น เปิดเผยผลการจับกุม นายศุภกิจ หรือ “ฟิล วัดดาว” อายุ 35 ปี และ น.ส.ศศิธร อายุ 28 ปี แฟนสาว ในข้อกล่าวหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันจำหน่ายวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภท 2 (คีตามีน) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่าย โดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการกระทำเพื่อการค้า” พร้อมด้วยของกลาง คีตามีน 420 กรัม และทรัพย์สินมูลค่ากว่าล้านบาท ประกอบด้วย โทรศัพท์มือถือ 4 เครื่องรถยนต์ 2 คัน รถ จยย. 2 คัน เงินสด 5 หมื่นบาท ทองคำน้ำหนัก 5 บาท 1 เส้น กําไลข้อมือ hermes 1 อัน โดยจับกุมได้ที่ ซอยวัดหฤหบดี 4 แขวงบางยี่ขัน เขตบางพลัด กทม. วันที่ 27 มิ.ย. ที่ผ่านมา

สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตํารวจได้ดำเนินการสืบสวนจับกุมผู้ต้องหาและทำการขยายผลเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติดเรื่อยมาจนทราบว่า ผู้ต้องหาทั้ง 2 คนมีพฤติการณ์จําหน่ายยาเสพติดให้วัยรุ่นในชุมชนวัดดาวดึง เขตบางพลัด และพื้นที่ใกล้เคียง จึงเฝ้าสืบสวนติดตามพฤติกรรมเรื่อยมา ต่อมาเมื่อวันที่ 27 มิ.ย. เวลาประมาณ 14.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจพบว่า นายศุภกิจ จอดรถ จยย. ริมถนนภายในซอยคฤหบดี 4 แขวงบางยี่ขัน เขตบางพลัด เจ้าหน้าที่ชุดตรวจค้นจึงแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตํารวจเพื่อขอทําการตรวจค้นตัวและรถจยย. พบวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภท 2 (เคตามีน) น้ำหนักรวมถุงประมาณ 0.6 กรัม ในกระเป๋าเสื้อคลุมตัวที่นายศุภกิจ สวมใส่อยู่

จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงได้นำหมายค้นศาลอาญาตลิ่งชันที่ 145/2567 ลงวันที่ 27 มิ.ย. 67 เข้าค้นที่บ้านเลขที่ 777 ถนนสมเด็จพระปิ่นเกล้า 2 ซอยตรอกศาลเจ้าแขวงบางยี่ขัน เขตบางพลัด บ้านที่ผู้ต้องหาพักอาศัย ผลการตรวจค้นพบ น.ส.ศิธร พักอาศัยอยู่ในห้องดังกล่าวพบยาเค น้ำหนักประมาณ 20 กรัม อยู่ภายในห้อง ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวทั้งคู่ไปตรวจค้นรถยนต์ ของผู้ต้องหาซึ่งจอดอยู่ที่บริเวณพื้นที่รับฝากรถภายในซอยสมเด็จพระปิ่นเกล้า 2 แขวงบางยี่ขัน เขตบางพลัด พบคีตามีน น้ำหนักประมาณ 400 กรัม ซุกซ่อนอยู่ภายในรถ

จากการตรวจสอบประวัติคดียาเสพติดทั้ง 2 คน จากระบบคราม ( CRIMES ) ของ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พบว่า น.ส.ศศิธร มีประวัติต้องหาคดีอาญา จำนวน 1 คดี ดังนี้ สภ.เสม็ด ภ.จว.ชลบุรี ภ.2 เลขคดี 481/2559 ข้อหา ” ตัวการในข้อหาครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท1 (แอมเฟตามีน หรืออนุพันธ์แอมเฟตามีน)” จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้จับกุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 คนพร้อมของกลางดําเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.