เมื่อวันที่ 30 มิ.ย. ศูนย์วิทยุร่มโพธิ์ทอง สภ.เมืองอุดรธานี ได้รับแจ้งเหตุหลานคลั่งยาอาละวาดทำร้ายภรรยาและย่าตัวเอง เหตุเกิดที่บ้านพักในอ.เมือง จ.อุดรธานี หลังรับแจ้งผู้ช่วยเหลือเจ้าพนักงาน เขตงานเทพารักษ์ เขตงานนาคา สภ.เมืองอุดรธานี รุดไปตรวจสอบ ที่เกิดเหตุเป็นบ้าน 2 ชั้น เปิดเป็นสำนักหมอดูสูตรโบราณ โดยมี นางอรุณ หมอดูอายุ 67 ปี เจ้าของสำนัก ชี้ให้เจ้าหน้าที่ดูซากเก้าอี้พลาสติกที่พังเสียหาย 3 ตัว จากฝีมือนายตอง อายุ 24 ปี ลูกของลูกชายหรือหลานชายแท้ๆ และชี้จุดที่นายตองทิ้งท่อนไม้ไผ่ดูดวง ยาวประมาณ 1 เมตร ที่ใช้ทุบทำลายเก้าอี้และมีดทำครัวปลายแหลม 2 เล่ม ที่นายตองขว้างใส่ภรรยาและย่า เหตุเกิดจากนายตองอาละวาดตบตีภรรยาจึงพังเก้าอี้และขว้างมีดข่มขู่ย่า และขับขี่รถจักรยานยนต์ของย่าหลบหนีออกไปจากบ้านพร้อมภรรยา หลังจากเห็นว่านางอรุณได้โทรแจ้งตำรวจให้มาจับกุม ซึ่งยังไม่รู้ว่าหนีไปที่ไหน
นางอรุณ กล่าวว่า “ที่หลานคลั่งคิดว่าคงจะเป็นเพราะฤทธิ์ยาเสพติด หลานเสพยามาตั้งแต่เรียนชั้นประถม ติดมานานกว่า 10 ปีแล้ว เพิ่งพาภรรยามาอยู่ที่บ้านด้วยเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา เมื่อ 3 วันก่อนย่าซื้อมือถือให้ใหม่ เพื่อจูงใจให้เขากลับตัวกลับใจ หลานก็รับปากว่าจะออกไปทำงานช่วยพ่อเขา ตนก็ดีใจให้เงินไปอีก 600 บาท แต่กลับเอาไปซื้อยามาเสพจนคลั่งอย่างที่เห็น เมื่อมาอยู่ด้วยก็ไม่ได้ทำงานอะไร จะขอเงินตนทุกวัน ตนให้ได้ตามที่ขอและเท่าที่ตนมี อย่างต่ำก็ครั้งละ 100 บาท ทุกข์ใจมากช่วยเอาหลานไปบัดบัดด้วย ไม่ไหวแล้ว ไม่อยากให้เขาอยู่ด้วยแล้ว ไม่รู้ว่าจะเกิดเหตุร้ายกับตนวันไหน”
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แนะนำให้ผู้เสียหายไปแจ้งความร้องทุกข์ที่ สภ.เมืองอุดรธานี เพื่อจะได้ดำเนินการติดตามตัวนายตอง มาดำเนินการตามกฎหมาย และจากการตรวจสอบประวัตินายตอง พบว่าเพิ่งก่อเหตุทำร้ายภรรยา ซึ่งอายุคราวแม่ สาเหตุเนื่องจากเงินหมดไม่มีเงินจ้างรถกลับบ้าน นายตองอยากให้จ้างรถกลับแล้วไปเอาเงินกับย่าแต่ภรรยาเกรงใจนายตองจึงโมโหตบตีภรรยา แต่ก็จบลงด้วยการที่ตำรวจเข้าไประงับเหตุ และนายตองสัญญาว่าจะไม่ตีภรรยาอีก ก่อนหอมแก้มภรรยาโชว์ตำรวจและนักข่าว แต่ก็มาก่อเหตุซ้ำจนได้