เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 12 มิ.ย. ที่กระทรวงสาธารณสุข นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข เปิดเวทีหารือการปรับปรุงประกาศกระทรวงฯ ดึง “กัญชา” กลับเป็นยาเสพติด ยกเว้นใช้ทางการแพทย์และสุขภาพ โดยเชิญภาคธุรกิจ เครือข่ายธุรกิจกัญชา  อาทิ นายจุลภาส  เครือโสภณ หรือที่เรียกกันในแวดวงว่า “คุณทอม” ผู้ก่อตั้ง บริษัท Golden Triangle Health จำกัด (GTH) และภาคธุรกิจต่างชาติรวมถึงธุรกิจของคนไทย มีสมาคมสหอุตสาหกรรมพืชกัญชงและกัญชา เข้าร่วมหารือ

วันเดียวกัน เครือข่ายเขียนอนาคตกัญชาไทย นำโดยนายประสิทธิ์ชัย หนูนวล เลขาธิการเครือข่ายเขียนอนาคตกัญชาไทย และตัวแทนเครือข่ายประมาณ 10 คน เดินทางมายังกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งช่วงแรกเครือข่ายเขียนอนาคตกัญชาฯ ปฏิเสธเข้าร่วมเวทีดังกล่าว เนื่องจากประเด็นหารือวัตถุประสงค์แตกต่าง เพราะเครือข่ายฯ เน้นประชาชนได้ใช้ประโยชน์ จึงไม่ขอเข้าร่วมในห้องประชุมใหญ่ ที่มีกลุ่มธุรกิจและยืนรอเพื่อหารือกับ รมว.สธ.หน้าห้อง และได้เข้าหารือกับนายสมศักดิ์ในเวลา 16.50 น. โดยภาคธุรกิจออกจากห้องประชุมกันหมด ยกเว้นนายจุลภาส  เครือโสภณ ผู้ที่ยังนั่งฟังในวงประชุมด้วย

นายประสิทธิ์ชัย ได้เสนอ 2 ข้อ คือ 1. ยืนยันให้มี พ.ร.บ.กัญชาฯ ไม่หนุนควบคุมกัญชาโดยประมวลกฎหมายยาเสพติด และ 2.ให้ตั้งคณะทำงานร่วมกันทุกฝ่ายก่อนนำกัญชากลับเป็นยาเสพติด ส่วนเรื่องป้องกันเยาวชน ถ้ามี พ.ร.บ.สามารถออกแบบรายมาตราได้ตามบริบทได้ จะเปลี่ยนแปลงอะไรก็ออกกฎกระทรวงได้ แต่ประมวลกฎหมายยาเสพติดจะทำยากกว่า เพราะถูกเขียนไว้แล้ว หากรัฐยังยืนยันจะกลับไปเป็นยาเสพติด ควบคุมโดยประมวลกฎหมายยาเสพติด พวกตนก็ต้องชุมนุมยืดเยื้อกันต่อไป 

ด้านนายสมศักดิ์ กล่าวว่า จากการรับฟังแม้จะประกาศเป็นยาเสพติด พวกท่านก็ยังสามารถใช้ทางการแพทย์และสุขภาพได้โดยเราไม่ได้ห้าม เพียงแต่ต้องมีการควบคุม สำหรับการเสนอร่าง พ.ร.บ.ของทางเครือข่ายทำได้ แต่ในส่วนของตนและกระทรวงสาธารณสุข การจะร่าง พ.ร.บ.อาจจะไม่ทัน สิ่งสำคัญในส่วนของกระทรวงตอนนี้ทำได้เร็วสุดคือ ออกประกาศ แต่ก็ใช้ในแนวเป็นซอฟต์ ดรัก ซึ่งทางการแพทย์ สุขภาพใช้ได้ สังคมยังใช้ได้แต่ต้องควบคุม

“กรณีนี้ไม่ได้ตัดสิทธิท่าน ท่านก็เสนอตามกระบวนการ หากสุดท้าย พ.ร.บ.ผ่าน ตัวประกาศกระทรวงฯ ก็ต้องหยุดไป เพราะ พ.ร.บ.ใหญ่กว่า ดังนั้น ทั้งท่านและผมจะมาบังคับเรื่องการทำกฎหมายไม่ได้ ไม่ต้องกดดันกัน ยืนยันว่าไม่ได้ตัดสิทธิกัน” รมว.สาธารณสุข กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างถามตอบ ยังไม่ได้ข้อสรุป ทาง นายประสิทธิ์ชัย และเครือข่าย ต่างทยอยเดินออกจากห้องประชุม โดยนายประสิทธิ์ชัย ให้สัมภาษณ์ว่า ยืนยันแล้วว่า รมว.สาธารณสุข จะเอากัญชากลับเป็นยาเสพติด โดยไม่รับฟังข้อเสนอใดๆ จากประชาชน นี่เป็นเรื่องน่าเศร้าของระบบสาธารณสุข แต่ รมว.สาธารณสุข กลับตอบว่า พวกเราจะทำ พ.ร.บ.ก็ทำ ส่วน รมว.สธ.จะทำประกาศ เราอยู่คนละประเทศหรืออย่างไร ซึ่งไม่ได้ คำชี้แจงของ รมว.สธ.เป็นคำลวง ไม่อยู่บนข้อเท็จจริง แม้เสนอคณะกรรมการร่วมก็ปฏิเสธอีก และที่น่าสังเกตคือ วันนี้ รมว.สธ.กลับมีแกนนำนักธุรกิจนั่งข้างๆ กันด้วย นี่คือ กระบวนการทุนพรากกัญชาออกจากประชาชน

“พวกเราจะยืนยันชุมนุมต่อไป และจะคุยกับนายกฯ เศรษฐา ทวีสิน เท่านั้น หากยังไม่ยอมรับอีกเ ราก็จะหากลไกอื่นๆ ต่อไป โดยการยกระดับการชุมนุม จะขอหารือกันว่าจะทำอย่างไร เพราะชัดเจนแล้วว่าจะถูกพรากยากัญชา หากไม่อยากเจอสภาวะนี้ เราจะประกาศชุมนุมครั้งใหญ่ที่ทำเนียบรัฐบาล หลังจากนี้เราจะไม่ใช่แค่ 20 คน แต่จะระดมคนทั่วประเทศ ผู้ป่วยต่างๆ ให้ได้หมื่นคน” นายประสิทธิ์ชัย กล่าว

ด้านนายสมศักดิ์  ให้สัมภาษณ์ว่า ก็ให้พูดจนจบแล้ว และเสนอจุดยืนและหาทางออกให้ดีที่สุด ทั้งเรื่องกฎหมาย เรื่องประกาศ ทุกอย่างต้องเป็นเหตุเป็นผล

เมื่อถามว่าเครือข่ายจะรวมตัวไปทำเนียบ เพื่อแสดงออกตรงนี้ว่ารัฐกำลังพรากกัญชาจากประชาชน จะเป็นการกดดันหรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า เรื่องการกดดัน ถูกหรือไม่ เรื่องที่ถูกต้องคือ เหตุผล อย่างจริงๆ วันนี้การแสดงความคิดเห็น ฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยกับการเป็นยาเสพติด มีมากกว่าด้วยซ้ำ แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีการแสดงความคิดเห็น สามารถมาแสดงออกได้จนถึงวันที่ 25 มิถุนายน ผ่านเว็บไซต์ LAW และของเว็บไซต์ อย. จากนั้นมาพูดคุยกฎเกณฑ์กันต่อไป.