เมื่อวันที่ 2 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่โนนทับช้าง ต.สุมเส้า อ.เพ็ญ จ.อุดรธานี ไปพบกับนางเอ (นามสมมุติ) อายุ 50 ปี เจ้าของบ้าน หลังได้รับการร้องเรียนว่าแฟนสาวของนายหนุ่ม อายุ 27 ปี ลูกชาย คือ น.ส.บี (นามสมมุติ) ได้ถูก นายไข่ (นามสมมุติ) อายุ 63 ปี อดีตกิ๊กของนางเอ ฉุดขึ้นรถสามล้อเครื่องพาไปรุมโทรมพร้อมกับพวกอีก 3 คน ที่ป่าสาธารณะหลัง อบต.นาข่า อ.เมือง จ.อุดรธานี เบื้องต้นได้แจ้งความไว้กับ พ.ต.ต.วัฒพงษ์ จำนงอุดม สว.(สอบสวน) สภ.เมืองอุดรธานี ไว้แล้ว
น.ส.บี เล่าว่า ก่อนหน้านี้ตนเองได้ทะเลาะกับแฟนหนุ่มช่วงบ่าย จึงได้เก็บเสื้อผ้าใส่ลังกระดาษ เดินมาตามถนนมุ่งหน้าไปทางถนนมิตรภาพ ขณะที่ตนนั่งรอรถประจำทางอยู่ศาลาริมทาง แต่เมื่อดูแล้วว่าไม่มีรถ ตนจึงเดินมาถึงทางแยกเข้าวัดป่าอัมพวัน ห่างจากจุดแรก 200 ม. ตอนนั้นมีญาติแฟนหนุ่มโทรศัพท์มาบอกว่าจะอาสาขับรถพาไปส่งสถานีรถไฟอุดรฯ ตนจึงยืนรออยู่ตรงนั้นอีก 20 นาที สักพักก็มีนายไข่ ที่ตนเรียกว่าพ่อเลี้ยง ขับรถสามล้อเครื่องมาหา
“ตอนนั้นนายไข่หว่านล้อมว่าจะไปส่งเองแต่ตนก็ปฏิเสธ จากนั้นเขาก็ใช้มือตบและต่อยท้องตน บังคับให้ขึ้นรถไป แล้วนายไข่ก็พาไปเส้นทางระหว่างหมู่บ้านที่เป็นทางเปลี่ยว จากนั้นก็เห็นนายไข่ โทรฯ บอกลูกน้องเขา 3 คน ให้ขี่รถจักรยานยนต์ตามมา ระหว่างทางพยายามจะกระโดดลงจากรถ แต่นายไข่ ก็ชักมีดออกมาข่มขู่ ตนกลัวจึงไม่กล้าขัดขืนอะไร เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ นายไข่ เลี้ยวรถเข้าไปในป่า ลูกน้องเขาก็เลี้ยวตามเข้ามา ก่อนบังคับข่มขืนตน โดยนายไข่ลงมือคนแรก มีลูกน้องเขา 3 คน จับตนขึงพืดไปกับพื้นไม่ให้ตนดิ้น” น.ส.บี เล่าทั้งนํ้าตา
น.ส.บี เล่าต่อว่า ระหว่างที่นายไข่ ข่มขืนได้พูดกับตนว่า จะให้เงิน 500 บาท ให้ตนอมนกเขาให้ ตนไม่ยอม ก็ถูกต่อยท้อง ถูกมีดจี้เอาไว้ หลังจากนั้นลูกน้องเขา 3 คน ก็ผลัดเปลี่ยนกันข่มขืนจนครบ ตนถูกทำร้ายอยู่นานหลายชั่วโมง เมื่อพวกเขาหนำใจแล้ว ลูกน้อง 3 คนก็หนีไป นายไข่ ก็ได้ข่มขู่ว่าห้ามไปบอกใคร ห้ามแจ้งตำรวจ แจ้งไปก็ไม่มีใครทำอะไรเขาได้ ถ้าแจ้งจะกลับมาฆ่าให้ตายยกครัว แล้วเขาก็ขับรถสามล้อเครื่องหนีไป ตนจึงใส่เสื้อผ้าแล้วเดินออกมาจากป่า จนมาเจอพลเมืองดีขี่รถจักรยานยนต์ผ่านมา เขาจึงพาไปส่งโรงพักเมืองอุดรฯ
ด้าน นางเอ เล่าว่า น.ส.บี เป็นคนพิการทางสมอง มีพัฒนาการช้า แต่ก็คบหากับลูกชายตนได้ประมาณ 3 ปี ย้ายมาอยู่ด้วยกันที่บ้านหลังนี้ ส่วนนายไข่ ตนรู้จักกันมาประมาณ 1 ปี รู้จักตอนไปทำงานก่อสร้างด้วยกัน เคยคบหากันช่วงสั้นๆ เมื่อรู้ว่าเขามีครอบครัวแล้วก็ตีตัวออกห่าง ที่สำคัญมารู้ทีหลังว่ามีพฤติกรรมไม่ดี เป็นคนเจ้าชู้ เป็นคนหื่น ซาดิสต์ จีบผู้หญิงไปทั่ว ไม่สนว่าลูกใคร เมียใคร นายไข่ จะจีบและมีสัมพันธ์ไปทั่ว เมื่อ 2 เดือนก่อนทะเลาะกันหนักกับนายไข่ จนลูกชายมาช่วย เขาก็อาฆาตเอาไว้ แล้วออกจากบ้านไป
“วันเกิดเหตุตนไปช่วยขนทรายเข้าวัด พอกลับมาลูกชายก็บอกว่า น.ส.บี หอบเสื้อผ้าหนีกลับบ้านไปแล้ว ตนก็บอกให้โทรฯ ตาม สักพักลูกชายก็ออกไปตามหาจนเจอ เนื่องจากมีเพื่อนรุ่นพี่โทรฯ มาบอกว่า น.ส.บี โทรฯ มาหา ได้ยินแต่เสียงผู้ชายหลายคนอยู่รอบๆ อาจจะเกิดเรื่องร้าย จึงออกตามหาอีกครั้ง จนมารู้อีกครั้งว่าตำรวจพาไปที่โรงพัก พอเขากลับมาก็พาไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล จนอีกวันถึงเข้าไปแจ้งความกับตำรวจ” นางเอ กล่าว
นางเอ กล่าวต่อว่า หลังเกิดเหตุนายไข่ ก็ยังลอยนวลอยู่ แต่ไม่กล้าเข้ามาที่บ้านอีก ตอนนี้ยังรอผลตรวจร่างกายอยู่ โรงพยาบาลนัดวันที่ 10 มิ.ย.นี้ แต่ก็ยังกังวลในความปลอดภัย เพราะนายไข่ มีพรรคพวกเยอะ อยากให้จับกุมนายไข่ เพราะเป็นบุคคลอันตราย ชอบข่มขู่คนอื่น ยิ่งถ้าเป็นผู้หญิง หากใครรู้เขาจะขู่ฆ่าทันที กับตนก็ยังไม่เว้น ชอบใช้กำลังตบตี ตนก็ไม่ได้อยากอยู่ด้วย แต่เขาตัวใหญ่แรงเยอะ เป็นสิ่งที่ยังกังวลอยู่ เพราะกลัวไม่ปลอดภัย.
