เมื่อวันที่ 28 ก.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่หน้า “ร้านทองเคทูเอ็น” ว่าตั้งแต่ช่วงเช้าวันนี้ มีการเปิดรับบัตรคิวในการขายทองคืนอีก 100 คิว แต่เพิ่มมาเป็น 141 คิว ซึ่งวันนี้เป็นวันที่ 5 ที่เปิดรับขายทองคืน ก่อนที่วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย. 67) จะปิดรับ 1 วัน โดยตั้งแต่ช่วงเช้า มีผู้เสียหายทยอยเดินทางมาเพื่อรอรับคิว บางคนมาตั้งแต่เช้ามืด มารออยู่บริเวณหน้าร้านที่มีการจัดเต็นท์ไว้ให้ แต่สังเกตว่าวันนี้ มีผู้เสียหายเดินทางมาบางตากว่าวันก่อนๆ เพราะปกติจะเปิดรับที่วันละ 300 คิว
นางสาวพลอย ผู้เสียหาย ที่เดินทางมาจากจังหวัดตราด เดินทางมาตั้งแต่ตี 2 และได้คิวลำดับที่ 2 เปิดเผยว่า วันนี้ตนเดินทางมาเป็นวันที่ 2 แล้ว ก่อนหน้านี้ เดินทางมาเมื่อวันพุธ เอาปี่เซียะ กับสร้อยจี้ไอ้ไข่ มาขาย ซึ่งตอนนั้นยังไม่ได้นำเพชรมา เพราะคิดว่ามีปัญหาแค่ทอง แต่เมื่อวานเห็นข่าวว่า เพชรก็น้ำไม่ตรงสเปก ซึ่งตอนขาย เขาบอกว่าเป็นเพชรน้ำร้อย ตนเลยไม่สบายใจ รีบเดินทางเอามาขายคืนก่อน โดยมีแหวนเพชร 3 วง ต่างหูเพชร 1 คู่ รวมมูลค่าเกือบ 1 แสนบาท ปรากฏว่า ตอนที่เข้าไปขาย พนักงานบอกว่า จะรับซื้อคืนได้ที่ราคาหัก 50% กับ 30% เท่านั้น ซึ่งตนก็ตกใจว่าทำไมถึงหักเยอะ ขอต่อรองว่าหักแค่ 15% ได้หรือไม่ พนักงานก็บอกว่า ให้ได้แค่หัก 20% พอตนบอกให้ติดต่อหาแม่ตั๊กกับป๋าเบียร์ พนักงานก็บอกว่า “ติดต่อไม่ได้ ทั้งคู่ไปปฏิบัติธรรม ฝากโทรศัพท์ไว้กับเจ้าอาวาส ตนเลยยิ่งงง และฝากไปบอกว่า ก่อนจะไปปฏิบัติธรรม ให้เอาเงินมาคืนลูกค้าให้หมดก่อน”
นาวสาวพลอย กล่าวอีกว่า วันนี้ตนยังไม่ได้ขายเพชรคืน พนักงานบอกว่าถ้าตนตกลงที่จะขาย โดยให้หัก 20% ก็ให้กลับเข้าไปขาย แต่ตนจะขอเจรจาก่อน ถ้าไม่ได้ในราคาหัก 15% ตนก็จะไม่ขาย และจะไปดำเนินคดีแทน ก่อนหน้านี้ให้โอกาสแล้ว เห็นว่าผู้เสียหายเยอะ ตอนนี้ไม่อยากติดตามแล้ว ขอให้แม่ตั๊กและป๋าเบียร์ออกมารับผิดชอบ เอาเงินมาคืน
ด้านนางสาววรรณ นามสมมุติ ผู้เสียหาย ซึ่งเดินทางมาจากจังหวัดปทุมธานี มาถึงที่ร้านทองตอนประมาณ 10 โมง แต่ไม่ได้รับคิว เปิดเผยว่า ปกติตนต้องเปิดร้านขายของและรับส่งลูกไปโรงเรียน จึงเพิ่งว่างเดินทางเอาทองมาขายคืนวันนี้ ซึ่งก็ต้องปิดร้านมา เห็นปกติรับวันละ 300 คิว จึงคิดว่าน่าจะทัน แต่พอมาถึง พนักงานบอกว่าวันนี้รับแค่ 100 คิว และรับเพิ่มมา 30 คิวแล้ว จึงไม่ให้คิวตนทั้งที่มาแล้ว
นางสาววรรณ เปิดเผยอีกว่า เมื่อปี 2564 ตนได้ซื้อปี่เซียะ จี้ไอ้ไข่ และสร้อย 18k ไป ตั้งใจจะนำไปเก็บไว้เพิ่มมูลค่า ตอนที่ซื้อไปก็ซื้อราคาแพงกว่าราคาทองตอนนั้น แต่เข้าใจว่าเป็นค่ากำเหน็จ และพอได้ของมาเอาไปเช็กที่ร้านทอง ร้านก็บอกว่าราคาทองไม่ถึงครึ่ง ตอนนั้นก็เริ่มรู้สึกไม่ดี แต่ไม่ได้มีความรู้เรื่องทองมาก จึงนำมาเก็บเอาไว้ จนมาดูรายการโหนกระแส จึงตั้งใจว่าจะต้องนำทองมาขายคืน ขอเอาเงินคืน แล้วถือเงินเดินเข้าร้านทองที่น่าเชื่อถือไปซื้อใหม่ดีกว่า เพราะทองที่ซื้อจากแม่ตั๊ก หากเก็บไว้คงเอาไปขายที่ไหนไม่ได้แล้ว
โดยวันนี้ที่ตนเดินทางมาไกล ก็ต้องเสียโอกาสในการขายของ จึงอยากขอรอเจรจาให้ทางร้านให้คิวเพิ่ม เพราะไหนๆ ก็มาแล้ว ตนยังเลือกที่จะนำทองมาขายคืน แทนที่จะดำเนินคดี แต่ตอนนี้ขอดูก่อนว่า ทางร้านดำเนินการเยียวยาลูกค้ามากน้อยแค่ไหน ไม่งั้นก็คงต้องดำเนินคดี ที่ผ่านมาตนติดตามแม่ตั๊กมานาน เพราะชอบดูคนทำบุญ เห็นว่ามีภาพลักษณ์น่าเชื่อถือ โปรไฟล์ดี และอุดหนุนสินค้าหลายอย่าง ก็ไม่คิดว่าจะเป็นแบบนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่หน้าร้านทองแม่ตั๊ก ช่วงบ่าย ว่ายังคงมีการรันคิวให้ลูกค้านำทองเข้าไปขายคืนอย่างต่อเนื่อง โดยส่วนใหญ่ เป็นลูกค้าที่นำปี่เซียะ และสร้อยทองมาขาย พร้อมนำของแถมมาด้วย ก็จะได้รับเงินคืนเต็มจำนวน นอกจากนี้ ยังมีคนที่นำปี่เซียะมาขายคืนไปแล้วก่อนหน้านี้ แต่ไม่ได้นำของแถมมา และได้เงินคืนไปไม่ครบ วันนี้จึงนำของแถมกลับมาให้เพิ่ม ทางร้านก็จ่ายเงินส่วนต่างคืนให้จนครบ อีกทั้งยังมีผู้เสียหายอีก 3 คน ที่มาถึงแล้วไม่ได้รับคิว เพราะทางร้านปิดรับคิวแล้ว ซึ่งผู้เสียหายกลุ่มนี้ ก็รอที่จะเข้าไปเจรจา เพราะเดินทางมาไกล อยากจะขอให้ทางร้านให้คิวเพิ่ม
ต่อมาเวลา 13.00 น. ภายหลังเข้าเจรจากับทางร้าน นางแป๋ว นามสมมุติ หนึ่งในผู้เสียหายที่ไม่ได้รับคิว เปิดเผยว่า จากการพูดคุย ทางร้านยืนยันว่าจะไม่ให้คิวเพิ่มแล้ว โดยให้เหตุผลว่า เตรียมเงินไว้ไม่พอจ่าย ซึ่งพอบอกให้ติดต่อไปหาแม่ตั๊กและป๋าเบียร์ พนักงานก็ไม่ยอมติดต่อ โดยตนเองเดินทางมาไกล ขับรถมากับเพื่อน 2 คน จากจังหวัดกาฬสินธุ์ เสร็จงานเมื่อวานก็รีบขับมา มาถึงตอนเช้า ยังไม่ได้นอน ยังไม่ได้กินข้าว แต่ไม่ได้รับคิว พนักงานบอกให้มาอีกทีวันจันทร์ พวกตนก็ต้องเสียเวลา เสียงาน และมีค่าใช้จ่ายในการหาที่พักเพิ่มอีก จึงมองว่า ทำไมทางร้านไม่ให้คิวเพิ่ม เพราะก็มีเกินมาแค่ไม่กี่คน ที่ให้เหตุผลว่าเงินไม่พอ มองว่ายอดเงินของคิวที่เกินมารวมกันไม่น่าจะถึงล้าน เงินในตู้เซฟน่าจะต้องมีเยอะอยู่แล้ว ทำไมไม่เปิดเอามาเพิ่ม ทางร้านควรเป็นมืออาชีพกว่านี้ ทำให้ได้อย่างที่พูด ถ้าตั้งใจจะคืนเงินให้ลูกค้าจริงๆ ทุกคนคือลูกค้า ไม่ควรมาจำกัด
สำหรับนางแป๋ว และเพื่อน จะขอหารือกันก่อนว่าจะอยู่รอวันจันทร์หรือไม่ เพราะมีภาระ แต่ก็อยากให้เรื่องจบตรงนี้ ส่วนผู้เสียหายอีกคน ที่มาจากปทุมธานีแล้วไม่ได้คิว ปรากฏว่ามีคนที่อยู่ไม่ไกลมาก ยอมเสียสละคิวให้ เพราะเห็นใจว่าต้องหยุดขายของ เดินทางมาไกล