เมื่อวันที่ 31 พ.ค. นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า จากการที่กระทรวงมหาดไทยได้รับความไว้วางใจจากรัฐบาล ภายใต้การนำของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี มอบหมายให้กระทรวงมหาดไทยดำเนินการต่อยอดนโยบายการจัดระเบียบสังคม และปราบปรามผู้มีอิทธิพลให้ครอบคลุมประเด็นปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “ปัญหาหนี้นอกระบบ” ที่ต้องดำเนินการเชิงรุก ซึ่งนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้กำชับให้กลไกกระทรวงมหาดไทยขับเคลื่อนแก้ไขปัญหาอย่างต่อเนื่อง โดยให้ทุกจังหวัดดำเนินการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบครอบคลุมทั้งระบบ เริ่มจากการเปิดให้ประชาชนลงทะเบียนหนี้นอกระบบ ตั้งแต่เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2566 ภายใต้การดูแลของผู้ว่าราชการจังหวัดและนายอำเภอ รวมถึงสำนักงานเขตในกรุงเทพมหานคร พร้อมทั้งบูรณาการกับทุกภาคส่วน อาทิ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานอัยการสูงสุด กระทรวงแรงงาน กระทรวงการคลัง กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ตลอดจนกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ร่วมกันขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบตามนโยบายของรัฐบาล ด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะช่วยแก้ปัญหาความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชนให้สำเร็จ เพราะคนเป็นหนี้นอกระบบต้องเผชิญกับการชำระดอกเบี้ยสูงมากและเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด อีกทั้งยังมีกระบวนการวิธีการทวงหนี้ที่ใช้ความรุนแรงโหดร้ายทารุณ

นายสุทธิพงษ์ กล่าวว่า จากการที่กระทรวงมหาดไทยได้เปิดรับลงทะเบียนให้ประชาชนที่มีความประสงค์ให้ทางราชการช่วยแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบนั้น มีประชาชนมาลงทะเบียนรวมทั้งสิ้น 153,400 ราย กระทรวงมหาดไทยจึงได้แจ้งให้ทุกจังหวัด อำเภอ เดินหน้าแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบอย่างต่อเนื่องด้วยการเชิญเจ้าหนี้และลูกหนี้มาเข้าสู่กระบวนการเจรจาไกล่เกลี่ยหนี้ โดยเมื่อเวลา 15.00 น. สำนักการสอบสวนและนิติการ กรมการปกครอง ได้รายงานข้อมูลความคืบหน้าแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบทั่วประเทศ มีลูกหนี้ที่ดำเนินการแล้วเสร็จ จำนวน 150,015 ราย มูลหนี้ลดลงรวม 1,202.631 ล้านบาท โดยยังคงเหลืออีก 3,385 ราย ที่อยู่ระหว่างการดำเนินกระบวนการไกล่เกลี่ย ซึ่งขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้เชิญเจ้าหนี้และลูกหนี้มาพบปะพูดคุยกัน เพื่อให้การแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบประสบความสำเร็จครบทั้งกระบวนการต่อไป นอกจากนี้ มีกรณีที่เจ้าหนี้-ลูกหนี้มีความประสงค์ให้เจ้าหน้าที่ได้ส่งต่อเรื่องไปยังพนักงานสอบสวนของสถานีตำรวจในพื้นที่ดำเนินคดี 463 คดี

นายสุทธิพงษ์ กล่าวต่ออีกว่า ขอชื่นชมเจ้าหน้าที่ทุกท่านที่ร่วมดำเนินการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบให้กับพี่น้องประชาชนมาอย่างต่อเนื่อง และแม้ว่ากระทรวงมหาดไทยจะกำหนดให้ทุกจังหวัดดำเนินการไกล่เกลี่ยหนี้นอกระบบให้แล้วเสร็จ ภายในวันที่ 31 พฤษภาคม 2567 แต่ยังคงมีพี่น้องประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน และยังไม่ได้รับการช่วยเหลืออีกเป็นจำนวนมาก กระทรวงมหาดไทยจึงยังคงมุ่งแก้ไขปัญหาเหล่านี้อย่างต่อเนื่องต่อไป เพียงขอให้พี่น้องประชาชนเข้ามาแจ้งให้กับหน่วยงานของรัฐทราบ เราก็พร้อมยินดีให้การช่วยเหลือทุกเมื่อ นอกจากนี้ กระทรวงมหาดไทยมิได้มองแค่ในส่วนของการแก้ไขหนี้เพียงอย่างเดียว แต่ยังให้ความสำคัญกับเรื่องความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชน ทั้งเรื่องที่อยู่อาศัย การศึกษา โดยได้นำนโยบายเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) มาช่วยแก้ไขปัญหา โดยมุ่งสนองแนวพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงมีพระราชปณิธานที่แน่วแน่ในการให้เราทุกคนช่วยกันทำให้ “ประเทศชาติมั่นคง ประชาชนมีความสุข แก้ไขในสิ่งผิด สืบสานในพระราชปณิธาน ภายใต้ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง” และการน้อมนำพระราชดำริเสริมสร้างความมั่นคงทางอาหารของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี “บ้านนี้มีรัก ปลูกผักกินเอง” ด้วยการปลูกพืชผักสวนครัว พืชสมุนไพร ไว้บริเวณรอบบ้าน เพื่อเป็นอาหารประจำครัวเรือน และรวมกลุ่มในการที่จะแปรรูปผลผลิต ทำการตลาดต่อยอด สิ่งเหล่านี้จำเป็นต้องทำคู่ขนานไป โดยมีกลไกขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเข้าไปช่วยยกระดับ ทักษะอาชีพ ทักษะฝีมือ เพื่อที่จะมีรายได้จากหลายทางมากยิ่งขึ้น เพื่อป้องกันไม่ให้พี่น้องประชาชนที่เคยเป็นหนี้สินนอกระบบกลับมาสู่วงจรแห่งความทุกข์ยากนี้อีกตลอดไปอย่างยั่งยืน

“เมื่อวานนี้ (30 พ.ค.) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีได้มีข้อสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการให้เจ้าหนี้นอกระบบเข้ามาสู่ในระบบ ตลอดจนการแก้ไขปัญหาอุปสรรคของระเบียบข้อกฎหมายที่ยังไม่สอดคล้องกับกับแนวทางปฏิบัติ เพื่อให้การดำเนินนโยบายด้านการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบสามารถแก้ปัญหาได้อย่างยั่งยืน พร้อมทั้งกล่าวชื่นชมกลไกกระทรวงมหาดไทย ในการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ตลอดจนการดำเนินการเร่งรัดจัดการกับการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ อาทิ การจัดตลาดนัดแก้หนี้ การไกล่เกลี่ยข้อพิพาททางแพ่งระหว่างเจ้าหนี้และลูกหนี้ จนมีความก้าวหน้าเป็นอย่างมาก” นายสุทธิพงษ์ กล่าวเพิ่มเติม

นายสุทธิพงษ์ กล่าวในช่วงท้ายว่า กระทรวงมหาดไทยยังคงมุ่งมั่นในการดำเนินการกระบวนการไกล่เกลี่ยหนี้และการพัฒนาคุณภาพชีวิตของพี่น้องประชาชนอย่างต่อเนื่อง ด้วยกลไกของกระทรวงมหาดไทยในระดับพื้นที่ ภายใต้การนำของผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ ผู้เปรียบเสมือนนายกรัฐมนตรีของจังหวัดและของอำเภอ ด้วยการรณรงค์ประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ให้กับพี่น้องประชาชนที่เดือดร้อนจากปัญหาหนี้นอกระบบรวมถึงปัญหาอื่น ๆ ที่ไม่สามารถแก้ไขด้วยตนเองทุกเรื่อง