เมื่อวันที่8 ก.ค. นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่านายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรฯ ได้มอบหมาย คพ. ในการติดตามตรวจสอบคุณภาพสิ่งแวดล้อมกรณีเพลิงไหม้โรงงานบริษัท หมิงตี้เคมีคอล จำกัด และได้ประสานข้อมูลรายวันให้กับศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ จ.สมุทรปราการ เพื่อใช้ประกอบการบัญชาการณ์เหตุการณ์ต่อเนื่องมา ซึ่งวันนี้ คพ.ได้ประสานสำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 5 (นครปฐม) และสำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 6 (นนทบุรี) ร่วมกับเจ้าหน้าที่ คพ. ในการประชุมหารือเพื่อสรุปความก้าวหน้าและปัญหาอุปสรรคในการดำเนินการตรวจสอบคุณภาพสิ่งแวดล้อมหลังเพลิงไหม้โรงงานดังกล่าว จากผลการตรวจสอบพบว่าสถานการณ์มลพิษในพื้นที่ดีขึ้นตามลำดับ เหลือเพียงการตรวจสอบสารเคมีและกากของเสียอันตรายที่ตกค้างอยู่ในพื้นที่โรงงานเพื่อหาแนวทางการจัดการบำบัดและขนย้ายออกไปกำจัดให้เป็นไปอย่างถูกต้องตามหลักวิชาการต่อไป 

นายอรรถพล กล่าวว่า สถานการณ์คุณภาพอากาศในวันนี้ในรัศมี1-2 กม.ดีขึ้นอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน เหลือเพียงพื้นที่ในรัศมี 1 กม.รอบพื้นที่โรงงานที่ต้องมีการตรวจสอบและเฝ้าระวังอยู่ต่อไป โดยที่ประชุมได้กำหนดแผนและแบ่งสายงานการติดตามตรวจสอบและเฝ้าระวังคุณภาพสิ่งแวดล้อมต่อเนื่องจากวันที่ 7 ก.ค. 2564 อาทิ การตรวจสอบน้ำที่ปนเปื้อนจากการดับเพลิงในพื้นที่โรงงานการตรวจสอบคุณภาพอากาศบริเวณที่เกิดเหตุและชุมชนโดยรอบในรัศมี 0.5, 1 และ 2 กม. และเก็บตัวอย่างน้ำผิวดินในชุมชนโดยรอบทั้งนี้ข้อมูลผลการวิเคราะห์ทั้งหมดจะนำมาประมวลผลเพื่อประเมินความเสี่ยงและความเสียหายต่อสิ่งแวดล้อมรวมทั้งพิจารณาหาแนวทางในการจัดการเพื่อลดปัญหามลพิษและฟื้นฟูสภาพแวดล้อมต่อไป

อธิบดี คพ. กล่าวต่อว่าโดยการดำเนินงานในครั้งนี้มีหน่วยงานต่างๆ ที่เข้าร่วมอาทิ จ.สมุทรปราการ กองบัญชาการกองทัพไทย กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรมวิทยาศาสตร์ทหารบก  สำนักงานตำรวจแห่งชาติกรุงเทพมหานคร การไฟฟ้าฝ่ายผลิต และบริษัทในกลุ่มพีทีที  โกลบอลเคมิคอลจำกัด  (มหาชน) บริษัท NPC จำกัดบริษัทบางจากปิโตรเลียมจำกัด (มหาชน) ทั้งนี้ในวันนี้เจ้าหน้าที่ NPC ยังคงเฝ้าระวังเกี่ยวกับการเติมสาร DEHA ที่จะไปช่วยยับยั้งการเกิดปฏิกิริยาโพลิเมอร์ไรเซชั่นและสาร F500 ที่จะช่วยป้องกันการลุกติดไฟของสารสไตรีนที่รั่วไหลพร้อมทั้งตรวจสอบอุณหภูมิของถังตลอดเวลาและทีม คพ.และเจ้าหน้าที่กรมวิทยาศาสตร์ทหารบกได้ร่วมกันประเมินปริมาณความเข้มข้นของสารสไตรีนและฟอร์มัลดีไฮด์ที่ตกค้าง 

“ในส่วนของการสื่อสารกับประชาชนคพ.ได้จัดทำอินโฟกราฟิกให้ความรู้ในเรื่องการข้อควรปฏิบัติสำหรับประชาชนเมื่อกลับเข้าที่พักอาศัยหลังเกิดเพลิงไหม้ และคำแนะนำการใช้น้ำรอบพื้นที่เกิดเหตุซึ่งน้ำฝนน้ำคลองควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสและนำน้ำฝนมาใช้ในการอุปโภคบริโภคในช่วงนี้ ส่วนน้ำประปาสามารถใช้ในการอุปโภคบริโภคได้ตามปกติ แต่ทั้งนี้ประชาชนที่มีการรองน้ำประปาใส่ภาชนะไว้ให้มีฝาปิดมิดชิดเพื่อป้องกันการปนเปื้อน” นายอรรถพล กล่าว.