เมื่อวันที่ 29 ต.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวที่นายอนุทินถูกเชื่อมโยงว่าเป็นนักการเมืองที่นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม เคยพาลูกความไปพบที่ฮ่องกง เพื่อพูดคุยเรื่องธุรกิจพนันหวยออนไลน์ ว่า เรื่องมันนานแล้วหลังการเลือกตั้งปี 2566 โดยตนเดินทางพร้อมกับครอบครัว รวมถึงนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ และ น.ส.ศุภมาส อิศรภักดี ไปที่ฮ่องกง เพื่อไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์และไปพักผ่อนหลังการเลือกตั้ง และได้เจอกับนายษิทราที่โรงแรม เมื่อเจอกันก็ทักทายกัน พอรู้จักกันในระดับหนึ่ง
เมื่อถามว่าไม่ใช่เป็นการนัดเจอกันใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่ได้นัดเจอกัน แต่พอเจอกัน วันรุ่งขึ้นก็ได้มีการนัดทานข้าวกัน ซึ่งก็เป็นการนัดทานข้าวกันปกติ
เมื่อถามอีกว่าจะกระทบกับเรื่องหวยออนไลน์หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า อันนี้ก็เป็นเรื่องมั่ว ตอนนั้นตนยังไม่รู้เลยว่าจะได้เข้าร่วมกับรัฐบาลหรือไม่ ซึ่งน่าจะเป็นช่วงปลายเดือนพฤษภาคม 2566 หรือไม่ก็ต้นเดือนมิถุนายน 2566 ซึ่งตอนนั้นตนเตรียมตัวจะไปเป็นฝ่ายค้านแล้ว อีกทั้งตนไม่เคยมีประวัติยุ่งเกี่ยวกับหวยออนไลน์ และยังไม่รู้เลยว่าจะได้มีวาสนามาเป็น รมว.มหาดไทย
เมื่อถามว่าอยากจะฝากอะไรถึงทนายตั้ม หรือใครก็ตามที่ถ่ายรูปด้วย โดยมีการนำรูปภาพไปแอบอ้างหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า การถ่ายรูปเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว ตนไปกินข้าวกับใครตนก็ถ่ายรูป เป็นการเตือนความจำว่าเราได้ไปทานข้าวที่ตรงนี้ตรงนั้น รวมถึงเวลาที่สื่อมวลชนได้สัมภาษณ์ตนทุกครั้ง ตนก็จะให้ลูกน้องถ่ายรูปไว้เสมอ เพราะกลัวสื่อมวลชนจะทำข่าวที่บิดเบือน ซึ่งก็ทำให้ตนมีนิสัยที่ไม่ดี เมื่อถามอีกว่ารู้จักทนายตั้มใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า รู้จัก ทนายตั้มเคยมาหาสมัยตนเคยดำรงตำแหน่งอยู่ที่ รมว.สาธารณสุข ซึ่งยืนยันว่าไม่มีการคุยกันในเรื่องงานแบบเป็นเรื่องเป็นราว
เมื่อถามอีกว่าหลังจากที่มีกระแสข่าวเผยแพร่ออกไป ทนายตั้มได้ติดต่อกลับมาหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่มี แล้วตนก็ไม่ได้มีคอนแทคอะไรกันโดยตรง รวมถึงปกติก็ไม่ได้มีการติดต่อกัน แต่ก็ไม่ใช่ว่าไม่รู้จักกันหรือมีอะไรที่ไม่ชอบกัน ตนก็ไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับภารกิจส่วนตัวของทนายตั้ม และทนายตั้มก็ไม่เคยมาขออะไรให้ตนช่วยเหลือเช่นกัน
เมื่อถามอีกว่าหากมีการแอบอ้างจริง จะมีการดำเนินการอย่างไรบ้าง นายอนุทิน กล่าวว่า “ผมว่าเขาก็ไม่ได้แอบอ้างหรอกนะ เขาแอบอ้างเหรอ ไม่มี เป็นเพียงการไปร่วมรับประทานอาหารกันที่ตลาดแห่งหนึ่งในฮ่องกง และตนก็เป็นคนเลี้ยงอาหารด้วย“