เมื่อวันที่ 21 พ.ค. ร.ต.อ.ฉลาด สุขวิเศษ รอง สว.(สอบสวน) สภ.หินเหล็กไฟ จ.บุรีรัมย์ รับแจ้งมีเหตุชายคลั่งฆ่าแม่ตัวเอง และหลาน เสียชีวิต ในบ้านพื้นที่หมู่ 19 บ้านใหม่เจริญสุข ต.ตูมใหญ่ อ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์ จึงรีบรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วยกำลังตำรวจ แพทย์เวร รพ. และเจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างจรรยาธรรมจุด อ.คูเมือง ที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียว เจ้าหน้าที่พบนายยศ (สงวนชื่อสกุลจริง) อายุ 38 ปี อยู่ในอาการคลุ้มคลั่ง สวมกางเกงขาสั้น ไม่สวมเสื้อ เนื้อตัวเต็มเลือด เดินถือไม้คมแฝกเปื้อนเลือดออกมาจากบ้าน เจ้าหน้าที่ต้องใช้ความระวัง หลังทราบประวัติเป็นผู้ป่วยจิตเวช จากนั้นตำรวจชุดไม้ง่าม ใช้ไม้ง่ามเหล็กง่ามยาวเข้าควบคุมตัว โดยนายยศ ไม่มีท่าทีขัดขืนแต่อย่างใด ก่อนคุมตัวไปสงบสติอารมณ์ที่ สภ.หินเหล็กไฟ
ตรวจสอบภายในบ้านพบศพนางเอ (นามสมมุติ) อายุ 68 ปี เจ้าของบ้าน สภาพนอนหงายจมกองเลือด มีบาดแผลถูกตีด้วยของแข็งที่ศีรษะและตามร่างกายหลายแห่ง โดยที่พื้นมีรอยเลือดคล้ายลากศพเข้าออกบ้านเป็นทาง นอกจากนี้ ยังพบศพ ด.ช.บี (นามสมมุติ) อายุ 5 ขวบ หลานนางเอ และนายยศ ผู้ก่อเหตุ สภาพถูกของแข็งตีบริเวณใบหน้าและศีรษะ เสียชีวิตอีกราย จึงบันทึกและเก็บไม้คมแฝกไว้เป็นหลักฐาน พร้อมประสานตำรวจพิสูจน์หลักฐานเข้าเก็บหลักฐานอย่างละเอียดอีกครั้ง
สอบสวนเบื้องต้นทราบว่า นายยศ เคยใช้ยาเสพติดมานานจนป่วยเป็นโรคจิตเวชมานานกว่า 10 ปี ปกติจะไปส่งแม่ไปฟอกไตเป็นประจำ อาทิตย์ละ 3 ครั้ง ทั้งสองเคยมีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกันบ้าง แต่ไม่ถึงขั้นรุนแรงแบบนี้ คาดว่าขาดยารักษาจิตเวช ทำให้อาการกำเริบ ก่อนเกิดเหตุมีเพื่อนบ้านได้ยินเสียงดังมาจากบ้านเกิดเหตุ แต่ไม่ทราบแน่ชัดว่าเกิดอะไรขึ้น จากนั้นไม่นานได้ยินเสียงเด็ก หลานวัย 5 ขวบ ตะโกนออกมาว่า “พ่อฆ่าแม่” จากนั้นเสียงก็เงียบไป ไม่ได้ยินอะไรอีกเลย คาดว่าจะเสียชีวิตในตอนนั้นทันที ซึ่งเพื่อนบ้านไม่กล้าเข้าไป จึงประสานผู้ใหญ่บ้านแจ้งตำรวจมาตรวจสอบ
จากนั้นไม่นานระหว่างรอตำรวจ ชาวบ้านยังเห็นนายยศ ลากร่างแม่ตัวเองออกมาหน้าบ้านคาดว่าเสียชีวิตแล้ว สักพักก็ลากกลับเข้าไปในบ้าน ต่อมานายยศ ยังอุ้มศพหลาน 5 ขวบ ออกมาแล้วอุ้ม กลับเข้าไปในบ้านเช่นเดียวกัน กระทั่งตำรวจมาจับกุมดังกล่าว ทั้งนี้ ที่ผ่านมานายยศ เคยก่อเหตุวุ่นวายในหมู่บ้านหลายครั้ง แต่ครั้งนี้รุนแรงที่สุด เป็นการก่อเหตุกับครอบครัว สาเหตุน่าจะอาการจิตเวชกำเริบ อย่างไรก็ตาม อยู่ระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบรวบรวมหลักฐาน สอบปากคำผู้เกี่ยวข้องอย่างละเอียด ก่อนดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป
