เมื่อวันที่ 21 พ.ค. ที่กรมอุตุนิยมวิทยา บางนา น.ส.กรรวี  สิทธิชีวภาค อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่า กรมอุตุฯ ได้ประกาศ “การเริ่มต้นฤดูฝนของประเทศไทยประจำปี พ.ศ. 2567”  โดยประเทศไทยได้เข้าสู่ฤดูฝน ตั้งแต่วันที่ 20 พ.ค. และจะไปสิ้นสุดประมาณกลาง เดือน ต.ค. โดยดูจากปัจจัย คือ บริเวณประเทศไทยตอนบน สภาพอากาศมีฝนตกชุก หนาแน่น ครอบคลุมพื้นที่มากกว่าร้อยละ 60 และต่อเนื่อง 3 วันขึ้นไป ประกอบกับลมชั้นบนที่พัดปกคลุมประเทศไทย ที่ระดับความสูงประมาณ 1.5 กิโลเมตร ได้เปลี่ยนทิศเป็นลมตะวันตกเฉียงใต้ ซึ่งจะพัดพาความชื้นจากทะเลอันดามัน เข้ามาปกคลุมบริเวณประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง ส่วนลมชั้นบนที่ระดับความสูงประมาณ 10 กิโลเมตร ได้เปลี่ยนทิศเป็นลมฝ่ายตะวันออก ซึ่งถือว่าเป็นการเข้าสู่ฤดูฝนของประเทศไทยในปีนี้ ส่วนภาคใต้โดยเฉพาะฝั่งตะวันออกจะมีฝนตกชุกหนาแน่นต่อไปอีกจนถึงกลางเดือนมกราคม จึงขอประกาศให้ประชาชนได้ทราบทั่วกัน

กรรวี  สิทธิชีวภาค

“หลังประเทศไทยเข้าสู่ฤดูฝนแล้ว ในช่วง 2-3 วันนี้  จะมีฝนตกต่อเนื่องถึงประมาณวันที่ 25-26 พ.ค.นี้  โดยเฉพาะในฝั่งทะเลอันดามันจะมีฝนตกหนาแน่น คลื่นลมแรง จากการเคลื่อนตัวของพายุที่อาจก่อตัว พัฒนาเป็นพายุไซโคลน ใน 2-3 วันนี้ โดยมีแนวโน้มเคลื่อนขึ้นทางทิศเหนือไปทางประเทศอินเดีย จึงทำให้ฝั่งทะเลอันดามันจะมีคลื่นลมแรงในช่วงนี้ เรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง”

น.ส.กรรวี กล่าวต่อว่า ปีนี้คาดว่าจะมีพายุหมุนเขตร้อนที่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย จำนวน 1-2 ลูก มีโอกาสสูงที่จะเคลื่อนผ่านบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคเหนือ ในช่วงเดือน ส.ค. หรือ ก.ย. ซึ่งเป็นช่วงที่มีฝนตกชุกหนาแน่นที่สุด เตือนประชาชนระมัดระวังอันตรายจากฝนที่ตกสะสม น้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลาก สำหรับคาดการณ์ปริมาณฝนรวมปีนี้ใกล้เคียงค่าปกติและใกล้เคียงปีที่ผ่านมา ซึ่งมากกว่าค่าปกติร้อยละ 1 ในช่วงเริ่มต้นฤดูจะมีฝนเพิ่มมากขึ้นและตกต่อเนื่อง โดยเฉพาะภาคตะวันออกและภาคใต้ฝั่งตะวันตก ต่อมาช่วงกลางเดือนมิถุนายนถึงกลางเดือนกรกฎาคม ปริมาณและการกระจายของฝนจะลดลง อาจทำให้เกิดการขาดแคลนน้ำโดยเฉพาะพื้นที่นอกเขตชลประทานได้