เมื่อวันที่ 31 ก.ค. นายวัชรินทร์ ภาณุรัตน์ รองอธิบดีอัยการ สำนักงานการสอบสวน ในฐานะรองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวถึงกรณีที่สำนักงานการสอบสวน สำนักงานอัยการสูงสุด ได้มีการดำเนินคดี กับ นายมงคล ผู้ต้องหาตามหมายจับ ศาลอาญาตลิ่งชัน ในความผิดฐาน กระทำความผิดฐานกระทำโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่สำนักงานอัยการสูงสุด พรบ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 และสวมเครื่องแบบหรือประดับเครื่องหมายของเจ้าพนักงาน สำนักงานอัยการสูงสุดโดยไม่มีสิทธิ เพื่อให้บุคคลอื่นเชื่อว่าตนมีสิทธิ และ พรบ.เครื่องหมายราชการ พ.ศ. 2482 ตามความในประมวลกฎหมายอาญามาตรา 146 กรณี นายมงคล มีพฤติการณ์โพสต์ภาพตนเองขณะแต่งกายเครื่องแบบปกติขาวของข้าราชการฝ่ายอัยการประดับเครื่องหมายคล้ายเครื่องหมายของสำนักงานอัยการสูงสุดในลักษณะเผยแพร่โดยสาธารณะ ซึ่งบุคคลทั่วไปสามารถเข้าถึงได้ เพื่อเข้าใจได้ว่านายมงคล เป็นข้าราชการฝ่ายอัยการ โดยมีลักษณะการกระทำเเอบอ้างในลักษณะดังกล่าวหลายครั้ง
รองโฆษกอัยการ แฉยับ! ‘มงคล’ อัยการเก๊ ถูกร้องเรียนเรื่องยาวเป็นหางว่าว
ขณะนี้ที่พบว่านายมงคล มีพฤติการณ์ก่อเหตุหลายครั้ง การกระทำเเบ่งออกเป็นหลายคดี ไม่ต้องกังวล ตรงนี้สำนักงานการสอบสวนสำนักงานอัยการสูงสุดได้รวบรวมพยานหลักฐานแล้วดำเนินคดีไปทุกครั้งที่กระทำความผิดอย่างกรณีที่เขาทำหนังสือขอคัดคำร้องเเละคำเเถลงเรื่องการออกหมายจับไปที่อธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญาตลิ่งชัน เชิงข่มขู่โดยอ้างว่าถูกจับขณะทำกิจกรรม ซึ่งมีการพาดพิงอ้างว่าขณะจับกุมขณะปฎิบัติหน้าที่บรรยายเกี่ยวกับสถาบันฯ ซึ่งจะเห็นได้ชัดคือข้อความในหนังสือดังกล่าวก็เห็นชัดอยู่แล้วว่าเป็นการอ้างในสิ่งที่ไม่ควรจะอ้าง การกระทำของมงคลเป็นความผิดตามกฏหมาย อาญา ไม่ว่าจะเป็นพรบ.คอมฯและ พรบ. เครื่องหมายราชการ เเละผู้พิพากษาก็ได้ออกหมายจับแล้วเพราะฉะนั้นการออกหมายจับตำรวจผู้จับกุมก็สามารถไปการจับกุมได้ไม่ว่าที่ใดในประเทศไทย ตำรวจสามารถจับได้หมด ส่วนนายมงคลจะอ้างอะไรก็ตามตรงนี้นายมงคลก็ต้องยอมรับว่าสิ่งที่ตัวเองทำไป ด้วยถ้าทางทฝอธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญาตลิ่งชันเห็นว่าอย่างนี้เป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้องก็สามารถดำเนินการได้
อย่างที่ตนเคยกล่าวไปเมื่อครั้งเป็นข่าวเมื่อวันที่ 30 ก.ค.ที่ผ่านมา ว่าใครก็ตามไม่ว่าจะหน่วยงานไหน ถ้าเกิดได้รับผลกระทบหรือความเสียหายเกิดขึ้นจากการที่นายมงคลมีพฤติการณ์ที่กระทำสามารถดำเนินคดีได้เลย ส่งมาที่สำนักงานการสอบสวนสำนักงานสำนักงานอัยการสูงสุดได้เราจะเป็นเจ้าภาพในการดำเนินคดีกับนายมงคลให้
เมื่อวันที่ 30 ก.ค.ที่ผ่านมา ตนก็ได้รับเบาะแสจากทาง ตำรวจที่ว่านายมงคลมีพฤติการณ์ในลักษณะเดียวกันเเละเเบบอื่นที่อยุธยาเเละในพื้นที่ภาค 1 หลายครั้ง จึงอยากย้ำว่าท่านที่ได้รับความเสียหายไม่ว่าจะเป็นหน่วยงานรัฐหรือประชาชน ถ้าท่านไม่กล้าดำเนินคดี ให้ส่งเรื่องเข้ามายังตนที่สำนักงานการสอบสวนอัยการสูงสุดยินดีต้อนรับคนแบบนายมงคลถ้าปล่อยให้มีการกระทำตามพฤติกรรมแบบนี้ไปเรื่อยๆคิดว่าความเสียหาย มันไม่ได้เสียหายเฉพาะหน่วยงานรัฐ มันเสียหายต่อประชาชนและคนทั่วไป และมันก็จะเป็นวงกว้างขึ้น เพราะว่าคนเหล่านี้ก็เป็นคนที่ชอบแอบอ้าง
อย่างน้อยการที่กว่าคนๆหนึ่งจะเป็นอัยการ กว่าจะสอบได้มันต้องใช้ความสามารถอย่างน้อย จบนิติศาสตร์ จบเนติบัณฑิตไทยแล้วก็มาสอบ อยู่ดีๆนายมงคลมาใส่เครื่องแบบอัยการ ซื้อเครื่องแบบอัยการมาใส่ คนที่จะใส่ได้ต้องเป็นอัยการที่ได้รับการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง เเต่ถ้าใส่แล้วคนไม่กล้าดำเนินคดี ตนว่านายมงคลก็จะใส่เครื่องแบบนี้ไปเรื่อยๆ ขนาดตอนถูกจับยังใส่เครื่องแบบ ต้องรู้ไว้ว่าการใส่ทุกครั้งมีความผิดทุกครั้งเพราะเขาไม่มีสิทธิ์ใส่เครื่องแบบเลย
จากที่ตรวจสอบในมือของสำนักงานการสอบสวนสำนักงานอัยการสูงสุดพบว่ามีการกระทำผิด 16 กรรม และผมเชื่อว่าศาลเองก็ต้องพิจารณา อย่างที่วันก่อนมีข่าวว่าก่อนหน้านี้มีการรอลงอาญาคดีข่มขู่จะทำร้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจของนายมงคลไว้ก็จะถูกนำมาพิจารณา และกรณีอดีตอธิบดีในการสำนักงานสอบสวนได้มีคำสั่งแต่งตั้งเป็นที่ปรึกษานั้นนายมงคลได้นำคำสั่งดังกล่าวไปใช้ดำเนินการในหลายหลายกรณี เช่น เช่นการขอเครื่องหมายต่างๆ ถ้าหน่วยงานที่เคยมอบเครื่องหมายให้ไปเห็นว่าไม่ถูกต้องอย่างไร ก็สามารถดำเนินคดีได้หรืออาจจะส่งเรื่องมาที่สำนักงานการสอบสวนสำนักอัยการเป็นผู้รวบรวมในการดำเนินคดีก็ได้
“ได้รับรายงานบางกรณีว่าขึ้นไปถึงสำนักงานอัยการจังหวัดไปวางพฤติกรรมเช่นอ้างว่าเป็นอัยการชั้น 5 และไปขอดูสำนวนไปขอดูพยานหลักฐานต่างๆซึ่งอัยการที่อยู่สถานที่นั้นก็ตรวจสอบพบว่าไม่ได้เป็นอัยการจริง เราได้รับรายงานอยู่ซึ่งตอนนี้เราได้รับหลายเรื่องจริงๆและอยากจะเรียนฝากคุณมงคลว่าคุณมงคลหยุดเถอะครับอย่าทำอะไรที่มันมากไปกว่านี้เพราะที่ผ่านมาผมว่ามันก็หลายคดีแล้วนะครับ ตอนนี้คุณมงคลได้รับการแต่งตั้งเป็นที่ปรึกษาของท่านอดีตอธิบดีอัยการตอนนี้คุณควรต้องกลับไปปรึกษานักกฎหมายทั่วไปแล้วว่าพฤติกรรมที่คุณควรทำควรหยุดหรือยัง เพราะวันนี้ทุกคนก็มองว่าคุณมงคลกำลังทำอะไรอยู่ ต้องเรียนตามตรงว่า เนี่ยเรียกว่าทั่วถึงแล้วนะครับตอนแรกก็คือ ตำรวจแล้วมาอัยการและตอนนี้ก็ไปที่ผู้พิพากษาแล้ว ความเป็นจริงแล้วคุณไม่น่าจะทำอะไรไปมากกว่าเตรียมสู้คดีหรือเตรียมดำเนินการในส่วนที่คุณมงคลถูกกล่าวหายิ่งคุณมงคลทำหนังสือไป คุณมงคลไปคอมเม้นท์ในเฟซบุ๊กต่างๆ ผมก็เก็บหลักฐานไว้หมด เพราะฉะนั้นคุณมงคลแทนที่จะมีไม่กี่เรื่องแต่ตอนนี้มีหลายเรื่องมากๆ” รองอธิบดีอัยการสำนักงานการสอบสวน ระบุ.