เมื่อวันที่ 17 พ.ค. นายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ รองปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รมช.คมนาคม ได้มอบหมายให้ลงพื้นที่ร่วมกับ น.ส.ณภัทรา กมลรักษา ผู้ช่วยเลขานุการ รมว.คมนาคม ตรวจเยี่ยมการเปิดใช้งานทางเดินเลื่อนอัตโนมัติ (Walkalator) ของรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี บริเวณทางเชื่อมต่อระหว่างสถานีศูนย์ราชการนนทบุรี (PK01) รถไฟฟ้าสายสีชมพู และสถานีศูนย์ราชการนนทบุรี (PP11) รถไฟฟ้าสายฉลองรัชธรรม (MRT สายสีม่วง) ซึ่งได้เปิดให้บริการประชาชนตั้งแต่เมื่อวันที่ 16 พ.ค. 67 เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ใช้บริการรถไฟฟ้า และช่วยเติมเต็มการเดินทางเชื่อมต่อโครงข่ายรถไฟฟ้าให้มีความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น โดยยังไม่พบปัญหาใด
นายสรพงศ์ กล่าวต่อว่า บริเวณทางเดินเชื่อมดังกล่าว ได้ติดตั้งทางเดินเลื่อนอัตโนมัติรวม 6 ชุด (ทิศทางละ 3 ชุด) แต่ละชุดมีความยาว 60 เมตร กว้าง 1.4 เมตร เลื่อนด้วยความเร็ว 0.75 เมตร/วินาที ซึ่งจะลดระยะเวลาในการเดินทางได้เกือบ 4 นาที นอกจากนี้ยังติดตั้งระบบเซ็นเซอร์ และข้อความเสียงแจ้งเตือน “สิ้นสุดทางเลื่อน โปรดระมัดระวัง” และกล้องโทรทัศน์วงจรปิด เพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้บริการ โดย บริษัท นอร์ทเทิร์น บางกอกโมโนเรล จำกัด (NBM) ผู้รับสัมปทาน เปิดให้บริการทางเดินเลื่อนอัตโนมัติ ในวันจันทร์-วันศุกร์ เวลา 05.40-24.00 น. และวันเสาร์-อาทิตย์/วันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 06.00-24.00 น.
นายสรพงศ์ กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตามคณะได้โดยสารรถไฟฟ้า MRT สายสีม่วง จากสถานีศูนย์ราชการนนทบุรี (PP11) ไปยังสถานีเตาปูน (PP16) เพื่อเยี่ยมชมจุดเชื่อมต่อระหว่างรถไฟฟ้า MRT สายสีม่วง และโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ (วงแหวนกาญจนาภิเษก) ด้วย ซึ่งเมื่อโครงการฯ แล้วเสร็จ จะทำให้สถานีเตาปูน (PP16) เป็นสถานีรถไฟฟ้าที่ประชาชนสามารถเดินทางเชื่อมต่อสู่จุดหมายปลายทางได้หลากหลายทิศทาง ในโอกาสนี้ คณะได้ลงพื้นที่ติดตามการดำเนินงานก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ (วงแหวนกาญจนาภิเษก) ตามมาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อม ณ บริเวณสถานที่ก่อสร้างอุโมงค์ (Cut & Cover) ในพื้นที่กองพลทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยาน ถนนทหาร เขตดุสิต กรุงเทพฯ ด้วย
นายสรพงศ์ กล่าวด้วยว่า กระทรวงคมนาคมได้เน้นย้ำให้ รฟม. คุมเข้มการดำเนินงานในทุกขั้นตอนการก่อสร้างของผู้รับสัมปทาน/ผู้รับจ้าง ให้เป็นไปตามมาตรการความปลอดภัยสูงสุด ทั้งต่อตัวผู้ปฏิบัติงานเอง และประชาชนที่สัญจรผ่าน ควบคู่กับการดำเนินงานตามมาตรการลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและฝุ่นละออง PM 2.5 ตรวจวัดแรงสั่นสะเทือน ในระหว่างการก่อสร้างโครงการฯ ทุกสัญญาอย่างเคร่งครัด และต่อเนื่อง รวมถึงให้มีการบรรเทาผลกระทบจากการเบี่ยงจราจรในระหว่างการก่อสร้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงนี้ที่เป็นช่วงของการเปิดภาคเรียน ให้ รฟม. ดำเนินมาตรการรองรับการเดินทางในช่วงเปิดเทอม โดยบูรณาการทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในบริเวณพื้นที่ก่อสร้าง เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้รถใช้ถนนให้ได้มากที่สุด ตลอดจนพิจารณาการคืนผิวจราจร หรือให้ใช้พื้นผิวจราจรสำหรับกิจกรรมก่อสร้างเท่าที่จำเป็น และไม่กระทบต่อการสัญจรของประชาชนหรือให้กระทบน้อยที่สุด
นายวิทยา พันธุ์มงคล รองผู้ว่าการ รฟม. รักษาการแทนผู้ว่าการ รฟม. กล่าวว่า โครงการรถไฟฟ้า สายสีม่วง ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ (วงแหวนกาญจนาภิเษก) มีแนวเส้นทางเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้ามหานคร สายฉลองรัชธรรม (MRT สายสีม่วง) ที่สถานีเตาปูน รองรับการเดินทางของประชาชนจากจังหวัดนนทบุรี เข้าสู่พื้นที่กรุงเทพมหานครชั้นใน และสถานที่สำคัญบริเวณเกาะรัตนโกสินทร์ ไปยังพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการ ระยะทางรวมทั้งสิ้น 23.63 กิโลเมตร (กม.) แบ่งเป็นโครงสร้างใต้ดิน 14.29 กม. โครงสร้างยกระดับ 9.34 กม. มีสถานีใต้ดิน 10 สถานี และสถานียกระดับ 7 สถานี ซึ่ง รฟม. ได้เริ่มการก่อสร้างโครงการฯ ตั้งแต่เดือน เม.ย. 65 ปัจจุบันมีความก้าวหน้างานโยธาในภาพรวม 31.89% (ณ สิ้นเดือน เม.ย. 67) เร็วกว่าแผนงาน 9% โดย รฟม. ได้กำกับดูแลให้ผู้รับจ้างดำเนินงานตามมาตรการลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม และฝุ่นละออง PM 2.5 ในระหว่างการก่อสร้างอย่างเคร่งครัดและต่อเนื่อง ได้แก่ การติดตั้งรั้วสูง 2 เมตร ล้อมรอบพื้นที่ก่อสร้าง
ปิดคลุมกองวัสดุก่อสร้าง/กระบะรถบรรทุก ล้างทำความสะอาดถนนสาธารณะสัปดาห์ละ 3-4 ครั้ง ทำความสะอาดล้อรถก่อนออกจากพื้นที่ก่อสร้าง ตรวจสอบสภาพเครื่องจักรให้อยู่ในสภาพดี ติดตั้งกำแพงกันเสียงชั่วคราวในพื้นที่ที่กำหนด ติดตั้งเครื่องหมายจราจรสำหรับการเตือนและการเบี่ยงช่องจราจร ตลอดจนประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบล่วงหน้า ในกรณีที่มีความจำเป็นต้องดำเนินการก่อสร้างที่มีเสียงดัง/สั่นสะเทือน นอกจากนี้ ยังดำเนินมาตรการเพิ่มเติมนอกเหนือจากมาตรการในรายงาน EIA เช่น เพิ่มความถี่ในการล้างทำความสะอาดถนนสาธารณะเป็นทุกวัน
ทำความสะอาดถนนสาธารณะโดยใช้รถกวาดดูดฝุ่นทุกวัน ติดตั้งระบบฉีดพ่นละอองน้ำแรงดันสูง (High Pressure Water System) กำแพงกันเสียงชั่วคราวบริเวณ Cut & Cover เป็นต้น พร้อมทั้งประเมินผลการปฏิบัติตามมาตรการด้านสิ่งแวดล้อมของผู้รับจ้างทุก 1 ปี โดย รฟม. จะมอบโล่รางวัลและใบประกาศเกียรติคุณให้ผู้รับจ้างที่มีผลการปฏิบัติตามมาตรการ EIA ครบถ้วน เพื่อเป็นการสนับสนุนและเสริมสร้างกำลังใจแก่ผู้รับจ้างที่มีผลการปฏิบัติงานด้านสิ่งแวดล้อมที่ยอดเยี่ยม.