“ช้างศึก” ทีมฟุตบอลทีมชาติไทย จะลงสนามฟุตบอล “เอเชียนคัพ 2023” รอบ 16 ทีมสุดท้าย พบ อุซเบกิสถาน ทีมอันดับ 68 ของโลก ที่อัล ยานูบ สเตเดียม ในวันที่ 30 ม.ค.67 เวลาไทย 18.30 น. ถ่ายทอดสดทางพีพีทีวี เอชดี 36 และทีสปอร์ตส์ 7 ทีมไทยลุ้นสร้างประวัติศาสตร์เข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายครั้งแรก
ก่อนถึงวันแข่งขันผู้สื่อข่าวสอบถามความเห็นถึงเกมที่ ช้างศึก พบ อุซเบกิสถาน กับตำนานแข้งไทย เริ่มจาก “โค้ชซิโก้” เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง อดีตกองหน้าและโค้ชทีมชาติไทย
ซึ่ง กล่าวว่า ตอนนี้นักเตะไทยกำลังมั่นใจทั้งตัวจริงและตัวสำรอง แทบเรียกได้ว่าไม่มีชุดตัวจริงแล้ว ทั้ง 26 คนสามารถลงสนามได้หมด เจออุซเบกิสถาน ไทยจะต้องละเอียดในเกมรุกมากขึ้น ส่วนเกมรับทำได้ดีแล้ว เล่นได้อย่างเหนียวแน่น ปรับสไตล์มาเป็นรับแล้วโต้กลับซึ่งกำลังทำได้ดี วันที่ดวลกับซาอุดีอาระเบีย ก็มีโอกาสชนะ ดังนั้นเกมนี้เชื่อว่าทีมชาติไทยมีโอกาสชนะได้
ซิโก้ กล่าวด้วยว่า อุซเบกิสถาน เล่นคล้ายๆ ไทยคือระบบ 4-2-3-1 จุดเด่นคือทีมเวิร์คและลูกกลางอากาศ ไทยอย่าเสียฟาล์วในระยะอันตราย หรือปล่อยให้บุกขึ้นไปเปิดจากริมเส้นได้บ่อยๆ อย่างไรก็ตามตอนนี้เกมรับของไทยเล่นได้มั่นใจขึ้น ทั้ง เอเลียส ดอเลาะ หรือ พรรษา เหมวิบูลย์ ก็ช่วยกันป้องกันได้ดี ที่ผ่านมาไทย เจอ อุซเบกิสถาน ค่อนข้างบ่อยทั้งในคิงส์คัพ หรือฟุตบอลอุ่นเครื่อง เชื่อว่าไทยมีโอกาสชนะได้ อยู่ที่ 60-40 และคิดว่าอุซเบกิสถานก็คงไม่กล้าเปิดเกมรุกใส่ไทยมากนักเนื่องจากเป็นรอบน็อคเอาท์แล้ว ทุกคนเน้นรับไม่อยากเสียประตูก่อน อาจจะยืดเยื้อไปถึงต่อเวลาหรือยิงจุดโทษได้เลย เกมนี้สำคัญอยู่ที่ใครจะทำประตูได้ก่อน แต่ก็เชื่อว่าด้วยความมั่นใจของทีมชาติไทยเวลานี้จะสามารถเอาชนะได้
ด้าน “โค้ชเตี้ย” สะสม พบประเสริฐ อดีตกองกล่าง และอดีตโค้ชทีมชาติไทย ชุด 19 ปี กล่าวว่า จะยังเป็นเกมที่อึดอัดตามแท็คติกระดับเอเชียที่จะต้องโฟกัสเกมรับกันก่อน คิดว่าการที่เจออุซเบกิสถาน ถือว่าไทยโชคดี เพราะไม่แข็งมากนัก อุซเบฯ เล่นด้วยความรัดกุมเช่นกัน ยิ่งเป็นรอบน็อกเอาต์ก็คงไม่เปิดเกมแลกกับไทย มีโอกาสยืดเยื้อไปจนถึงการยิงจุดโทษได้ ไทยอาจจะต้องยืดหยุ่นมากขึ้น จะมีจังหวะที่โดนโหมต่อเนื่อง ต้องสังเกตุตลอดเวลาว่าตำแหน่งไหนหมดบ้าง ก็ต้องรีบเปลี่ยนโดยไว เพื่อความสด
โค้ชสะสม กล่าวต่อไปว่า เอเชียนคัพหนนี้ มาซาทาดะ อิชิอิ โค้ชไทย ยังแทบไม่ได้เติมแท็คติกอื่นๆ เน้นแต่เกมรับในแต่ละแดน ซึ่งมาตรฐานของคู่แข่งจะบ่งบอกเองว่าต้องเล่นแบบไหน ต่อให้บอกว่าจะครองบอลสู้ทำเกมรุก แต่สุดท้ายถ้าลงไปเล่นแล้วระดับมันสู้ไม่ได้ ก็ต้องปรับวิธีการเล่นกันเอง ส่วนหนึ่งอาจจะเรื่องความเหนื่อยล้า ที่เวลาสวนกลับต้องใช้ความเร็วและพละกำลังค่อนข้างมาก อาจจะต้องปรับผู้เล่นให้เหมาะสม ตัวจริงใช้ ศุภชัย ใจเด็ด, ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา, สุภโชค สารชาติ และ บดินทร์ ผาลา ลงก่อน แต่เมื่อไหร่ตื้อ หรือประสิทธิภาพลดลงก็ต้องรีบเปลี่ยนตัว เพื่อหวังถึงชนะ เพราะที่ผ่านมาดูไม่กล้าเปลี่ยนตัวเท่าไหร่
“ส่วนตัวมองว่ามันอึดอัดแน่นอน ต้องเน้นเกมสวนกลับถ้าหากเราทำได้เป็นชิ้นเป็นอัน เพราะเกมรุกเรามีความเร็วเป็นจุดเด่นเล่นงานคู่แข่งได้ เปอร์เซ็นต์ชนะให้ไทยที่ 40 อุซเบฯ 60 แต่เกมไม่ขาดแน่นอน มีโอกาสถึงพลิกชนะได้” สะสมพบประเสริฐ กล่าว.