การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.), กองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ (NSDF), คณะกรรมการกีฬามวย, สมาคมกีฬามวยไทยสมัครเล่นแห่งประเทศไทยฯ, สมาคมกีฬามวยอาชีพแห่งประเทศไทย และสหพันธ์สมาคมมวยไทยนานาชาติ (IFMA) ร่วมกันจัดโครงการประชาสัมพันธ์ และเผยแพร่ศิลปะมวยไทยสู่ต่างประเทศ พร้อมกับจัดการแข่งขันรายการ “อีสต์ เอเชียน มวยไทย แชมเปี้ยนชิพ 2023” โดยมีนักมวยไทยจาก 9 ชาติในภูมิภาคเอเชียตะวันออก ร่วมขึ้นสังเวียนชิงชัย ที่ควีน อลิซาเบธ สเตเดี้ยม เขตปกครองพิเศษฮ่องกง สาธารณรัฐประชาชนจีน ระหว่างวันที่ 23-26 พ.ย.66 ซึ่งเป็นซอฟต์พาวเวอร์ของประเทศไทย ให้เผยแพร่ไปสู่ระดับนานาชาติ และกำหนดมาตรฐานมวยไทย One Standard Muaythai (OSM) นำโดย ดร.ปัญญา หาญลำยวง คณะกรรมการติดตามการใช้จ่ายงบประมาณของกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ รวมทั้ง ดร.เช้า วาทโยธา ครูมวยไทยนานาชาติชื่อดัง และ “กัปปิตัน เพชรยินดีอะคาเดมี” อนึ่ง คัฒมารศรี ยอดนักมวยไทยชื่อดัง และคณะ ร่วมเปิดคลินิกสอนทักษะมวยไทยให้กับผู้เข้ารับการอบรมทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ
กิจกรรมดังกล่าวได้รับความสนใจจากแฟนกีฬามวยไทยในฮ่องกงที่เข้าร่วมเรียนรู้ศิลปะการต่อสู้ประจำชาติไทย กันอย่างคึกคัก โดยได้การจัดเวิร์กช็อปเปิดคลินิกสอนทักษะมวยไทยให้กับผู้เข้ารับการอบรมทั้งภาคทฤษฎี และภาคปฏิบัติ โดย ดร.เช้า วาทโยธา ครูมวยไทยนานาชาติชื่อดัง และ “กัปปิตัน เพชรยินดีอะคาเดมี” อนึ่ง คัฒมารศรี นักมวยไทยชื่อดัง ร่วมติวเข้มทักษะแม่ไม้มวยไทยให้กับผู้เข้ารับการอบรม ซึ่งได้รับการตอบรับจากชมรม และสมาคมกีฬามวยไทยแห่งฮ่องกง ส่งนักกีฬามวยไทยเข้าร่วมอย่างคึกคัก รวมทั้งยังได้การเปิดสังเวียนมวยไทย ในการแข่งขัน “อีสต์ เอเชียน มวยไทย แชมเปี้ยนชิพ 2023” โดยนักกีฬามวยไทย 9 จากชาติส่งทัพนักกีฬาเข้าร่วมประชัน ประกอบด้วย บังกลาเทศ, อินเดีย, เกาหลีใต้, มองโกเลีย, มาเก๊า, ญี่ปุ่น, ไต้หวัน, จีน และฮ่องกง เจ้าภาพ
นอกจากนี้ ยังมีการนำ “มวยไทย” ไปจัดแสดงศิลปะแม้ไม้มวยไทยโบราณ จากคณะลานนาไฟท์ติ้งมวยไทย นำโดย “ครูดิน” นายวิทวัส ค้าสม นำคณะนักมวยไทยไปโชว์อัตลักษณ์มวยไทยที่เป็นศิลปะการต่อสู้ประจำชาติไทย รวมทั้งการแสดงคีตะมวยไทย จากทีมมหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ วิทยาเขตเพชรบูรณ์ ทีมชนะเลิศจากการแข่งขันมวยไทยสมัครเล่นเยาวชนชิงแชมป์ประเทศไทย ประจำปี 2566 ซึ่งได้รับความสนใจจากผู้เข้าร่วมงานสุดตื่นตาตื่นใจ โดยกิจกรรมที่จัดขึ้นเมื่อช่วงระหว่างวันที่ 23-26 พ.ย. ที่ผ่านมา ประสบความสำเร็จอย่างล้นหลาม ได้รับคำชื่นชมจากผู้เข้าร่วมงานเป็นอย่างมาก จึงถือว่าปิดฉากลงด้วยความสำเร็จอันยิ่งใหญ่
ดร.ปัญญา หาญลำยวง เปิดเผยว่า ภาพรวมของการแข่งขัน “อีสต์ เอเชียน มวยไทย แชมเปี้ยนชิพ 2023” ที่ฮ่องกงในครั้งนี้ ต้องถือว่าเรามีความภาคภูมิใจ และมีความพึงพอใจเป็นอย่างยิ่งที่ประเทศไทย ซึ่งเป็นต้นตำหรับของมวยไทย และตอนนี้ได้แพร่ขยายไปทั่วทุกมุมโลก ไม่ว่าจะเป็นการแข่งขันเวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ, ยูโรเปี้ยนเกมส์ และการแข่งขันในอีสต์ เอเชีย ที่ฮ่องกง ซึ่งจะเห็นได้ว่าในครั้งนี้เป็นไปตามมาตรฐานของมวยไทย และพระราชบัญญัติกีฬามวย จึงต้องถือว่าตอนนี้เราเดินมาถูกทางแล้ว มวยไทยของเรานั้นเป็นซอฟต์เพาเวอร์ เป็นความภาคภูมิใจของเราที่แพร่หลายไปทั่วทุกมุมโลก และที่สำคัญคือเป็นไปตามต้นฉบับของแม่ไม้มวยไทย ทั้งเรื่องกฎกติกา การแข่งขัน การตัดสินต่างๆ เป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนดไว้
“ในส่วนที่สำคัญที่สุดคือเราได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดีจากทางรัฐบาลไทย ซึ่งมอบให้กับทางการกีฬาแห่งประเทศไทย โดยกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ได้สนับสนุนส่งเสริมในเรื่องแรงผลักดันต่างๆ ให้ได้เผยแพร่ศิลปะมวยไทยไปทั่วโลก ด้วยการประสานงานกับหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐ และเอกชน ไม่ว่าจะเป็นสถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลใหญ่ที่อยู่ทั่วโลก รวมทั้งพี่น้องชาวไทยทุกคนในต่างประเทศที่ช่วยเรื่องการติดต่อ ทำให้มวยไทยเป็นซอฟต์พาวเวอร์ของประเทศไทยอย่างแท้จริง ซึ่งรัฐบาลไทยได้มีการกำชับไปยังสถานทูตต่างๆ แล้วว่า ทำอย่างไรที่จะทำให้สินค้า อุปกรณ์ ศิลปวัฒนธรรมต่างๆ ของไทย ได้แพร่กระจายไปทั่วทุกมุมโลก รวมถึงมวยไทยด้วย ก็ต้องขอบคุณทางรัฐบาลที่สนุบสนุนเป็นอย่างดี”
ดร.ปัญญา กล่าวต่อว่า อีกประเด็นหนึ่งที่สำคัญคือพี่น้องประชาชนคนไทย และชาติสมาชิกของสหพันธ์สมาคมมวยไทยนานาชาติที่มีอยู่ถึง 151 ประเทศทั่วโลก มีความมุ่งหวัง และหวังเป็นอย่างยิ่งว่ากีฬามวยไทยจะได้รับการบรรจุในโอลิมปิกเกมส์ ซึ่งมีแนวโน้มคาดว่ามวยไทยอยู่ในช่วงของการเตรียมงาน ประสาน และเผยแพร่ไปสู่โอลิมปิกเกมส์ เราเชื่อว่าในการแข่งขันโอลิมปิก 2032 ที่เมืองบริสเบน ประเทศออสเตรเลีย คาดว่ามวยไทย จะได้เป็นหนึ่งชนิดกีฬาที่ได้บรรจุในการชิงชัย โดยเราหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ทุกภาคส่วนทั้งในไทย และสมาชิกทั่วทุกมุมโลก จะช่วยกันผลักดันให้มวยไทยเข้าสู่โอลิมปิกเกมส์ ได้สำเร็จ