เมื่อวันที่ 1 พ.ย. นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ อธิบดีกรมการปกครอง นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ สั่งการชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง นำโดยนายรณรงค์ ทิพย์ศิริ ผู้ตรวจราชการกรมการปกครอง ปฏิบัติหน้าที่ ผอ.ศูนย์ปฏิบัติการบังคับใช้กฎหมายพนักงานฝ่ายปกครอง สำนักการสอบสวนและนิติการ กรมการปกครอง พร้อมสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน กองบัญชาการกองอาสารักษาดินแดน กว่า 30 นาย บูรณาการร่วมกับฝ่ายปกครองจังหวัดเชียงใหม่ นำโดย นายอรรถวุฒิ พึ่งเนียม ปลัดจังหวัดเชียงใหม่ นายสิทธิศักดิ์ อภิกุลชัยสุทธิ์ นายอำเภอเมืองเชียงใหม่ นายดนัย สุขสกุล ป้องกันจังหวัดเชียงใหม่
นำกำลังเข้าจับกุมสถานบริการเถื่อนในคืนฮาโลวีน ย่านช้างเผือก อ.เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่ ชื่อ “เลอ เนิร์ฟ ผับ” ซึ่งเป็นผับเถื่อน ไม่มีใบอนุญาตตั้งสถานบริการ เป็นที่รู้จักกันดีในหมู่นักเที่ยว ว่าเป็นผับเด็กวัยนักเรียน นักศึกษา เอาบ้านไม้สองชั้นมาดัดแปลงเป็นผับโดยไม่ได้รับอนุญาต นักเที่ยวเบียดเสียดยัดเยียดเพดานต่ำ ไร้ทางหนีไฟ มีการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เกินเวลาที่กฎหมายกำหนด ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้กับเด็ก และปล่อยปละละเลยให้เด็กเข้าใช้บริการจำนวนมาก พบนักเที่ยววัยนักเรียนนักศึกษา อายุต่ำกว่า 20 ปี 242 คน
ปฏิบัติการดังกล่าว เริ่มต้นจาก การที่กระทรวงมหาดไทย โดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย มีนโยบายให้ฝ่ายปกครองทั่วประเทศ จัดตั้งชุดปฏิบัติการพิเศษเพื่อกวดขันปราบปรามผู้มีอิทธิพล การจัดระเบียบสังคม ยาเสพติด การค้ามนุษย์ การพนัน และอาวุธปืน โดยให้ฝ่ายปกครองทั่วประเทศเริ่ม Kick off ในวันที่ 1 พ.ย.2566 ทางฝ่ายปกครองจังหวัดเชียงใหม่ จึงได้ประสานกับชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง วางแผนเข้าร่วมจับกุม “ร้านเลอ เนิฟ หรือ NEUFXBAR” ซึ่งมีข่าวสารการร้องเรียนจากประชาชนผู้อาศัยใกล้เคียง ว่าเปิดให้บริการในลักษณะเป็นสถานบริการมีอาหารเครื่องดื่มจำหน่าย ปล่อยปละละเลยให้มีเด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี เข้าไปใช้บริการจำนวนมาก อีกทั้ง ยังเปิดให้บริการจนถึงเวลา 02.00 น. ส่งเสียงดังรบกวนชาวบ้านข้างเคียงจนนอนไม่หลับ
พนักงานฝ่ายปกครองเข้าสืบสวนข้อเท็จจริงพบว่ามีการกระทำผิดจริงตามข้อร้องเรียน กระทั่งเวลา 00.30 น. ของวันที่ 1 พ.ย. 2566 ได้เปิดปฏิบัติการ ”ป่าช้าแตก” บุกจู่โจมสถานบันเทิงละเมิดกฎหมายทันที เมื่อชุดจับกุมเข้าไปถึงภายในผับพบเป็นห้องปิดทึบ เปิดเพลงเสียงดังสนั่น แสงไฟเลเซอร์วิบวับ พบนักเที่ยวจำนวนเกือบ 300 คน กำลังมั่วสุมดื่มกินเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เต้นตามจังหวะเสียงดนตรีอย่างเมามันส์ นักเที่ยวกว่า 90% ของร้าน เป็นเยาวชน พนักงานฝ่ายปกครองจึงสั่งให้ปิดเพลงและเปิดไฟให้แสงสว่าง ภายในผับได้เกิดความโกลาหล นักเที่ยวเด็กต่างตกใจ และพยายามหลบหนีออกทางประตูหน้าร้านและหลังร้าน แต่ชุดจับกุมได้ปิดล้อมประตูไว้ทุกด้าน จึงทำให้นักเที่ยวไม่สามารถหนีออกไปได้ พนักงานฝ่ายปกครองได้ประกาศให้ทุกคนอยู่ในความสงบ จากการตรวจสอบพบนักเที่ยว ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเด็กวัยนักเรียนนักศึกษา อายุระหว่าง 17 ปี ถึง 19 ปี ส่วนใหญ่ยังศึกษาอยู่ในสถานศึกษาในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่
ทั้งนี้ สำหรับเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี พนักงานฝ่ายปกครอง ได้ประสานให้ทาง สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดเชียงใหม่ รับตัวเด็กไปคุ้มครองสวัสดิภาพ และดำเนินการจัดทำประวัติ และแจ้งให้ผู้ปกครองมารับตัวไป
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหาแก่ผู้ดูแลร้าน ดังนี้ 1. ตั้งสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาต 2.จำหน่ายสุราให้กับเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี 3. จำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้กับผู้มีอายุต่ำกว่า 20 ปี 4.จำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เกินกว่าเวลาที่กฎหมายกำหนด 5.ยุยงส่งเสริมให้เด็กประพฤติตนไม่สมควร 6.โฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หรือแสดงชื่อหรือเครื่องหมายของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อันเป็นการอวดอ้างสรรพคุณหรือชักจูงใจให้ผู้อื่นดื่มโดยตรงหรือโดยอ้อม 7.ดัดแปลงอาคารโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานท้องถิ่น
นอกจากนี้ ยังเป็นการฝ่าฝืนคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 22/2558 เรื่อง มาตรการในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการแข่งรถยนต์และรถจักรยานยนต์ในทางและการควบคุมสถานบริการหรือสถานประกอบการที่เปิดให้บริการในลักษณะที่คล้ายกับสถานบริการ ข้อ 4 (1)-(4) ทั้งนี้ เจ้าพนักงานฝ่ายปกครองชุดจับกุม จะได้เสนอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ออกคำสั่งปิดสถานที่ดังกล่าว เป็นเวลา 5 ปี ต่อไป
ในส่วนของการดัดแปลงอาคาร โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานท้องถิ่นนั้น ทางจังหวัดเชียงใหม่ จะได้ประสานกับเทศบาลนครเชียงใหม่ เพื่อออกคำสั่ง ระงับการใช้อาคารดังกล่าวต่อไป
นายรณรงค์ ทิพย์ศิริ ผู้ตรวจราชการ กรมการปกครอง ปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการบังคับใช้กฎหมายพนักงานฝ่ายปกครอง กล่าวว่า ผับแห่งนี้ นอกจากไม่มีใบอนุญาตตั้งสถานบริการแล้ว ยังพบว่ามีการดัดแปลงอาคารโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยใช้บ้านไม้สองชั้นนำมาดัดแปลงเป็นสถานบริการ มีเพดานห้องที่ต่ำมาก ไม่มีทางหนีไฟ หากเกิดเพลิงไหม้ จะต้องเกิดเหตุที่น่าสลด ดังนั้น จึงต้องทำการจับกุมดำเนินคดีไม่ให้เป็นตัวอย่างเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน และขอฝากเตือนไปยังผู้ประกอบการสถานบันเทิง ควรประกอบธุรกิจด้วยความมีจิตสำนึกรับผิดชอบต่อสังคม ไม่ฝ่าฝืนต่อกฎหมาย
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การปล่อยปละละเลยให้เยาวชนที่อายุต่ำกว่า 20 ปี เข้าใช้บริการ การปล่อยปละละเลยให้มีการใช้ยาเสพติดในสถานบริการ และการพกพาอาวุธเข้าไปในสถานบริการ หากพบว่าร้านใดยังคงฝ่าฝืนจะต้องถูกจับกุมดำเนินคดี และเสนอสั่งปิด 5 ปี ทุกร้าน